น้อง ๆ เขามีกฎว่า
“จะต้องช่วยกันทุกอย่างเพื่อประสบความสำเร็จด้วยกัน”
แฝดสามใบเถาขวัญใจของประชาคมออนไลน์ในเวียดนาม แม้จะรู้จักชื่อทั้งสามคนก็ยังยากที่จะเรียกให้ถูกตัว นอกจากจะเรียกตามสีหรือตามลายเสื้อ แต่สามสาวเติบโตมาด้วยกัน ช่วยกันทำการบ้าน ช่วยกันติว ทำให้เรียนเก่ง เป็นนัก “เด็กท็อป” มาด้วยกัน และในวันนี้ประสบความสำเร็จด้วยกันในด่านแรก ไม่มีอะไรอีกแล้วที่จะทำให้คุณพ่อคุณแม่ภาคภูมิใจได้มากมายเท่านี้ ถึงแม้ว่าค่าเล่าเรียนของนักศึกษาแพทย์แต่ละคนตลอด 6 ปีข้างหน้า จะเป็นเงินมากมายมหาศาลสักเพียงไรก็ตาม. — ภาพ: เตื่อยแจ๋ออนไลน์.
http://www.manager.co.th/IndoChina/ViewNews.aspx?NewsID=9560000100183
ASTV ผู้จัดการออนไลน์ — ประชาคมออนไลน์ในเวียดนามพากันชื่นชม นักเรียนหญิงอายุ 18 ปีพี่น้องแฝดสาม ที่สอบเอ็นทรานซ์เข้าเรียนต่อมหาวิทยาลัยแพทย์ศาสตร์ได้ยกทีม มารดาเผยตั้งใจเรียนกันและติวกันเองมาตลอดแฝดทั้งสามมีความตั้งจะให้ประสบความสำเร็จร่วมกัน และไม่เคยออกนอกลู่นอกทาง ชาวเน็ตต่างชื่นชมผลงานการเลี้ยงดูของคุณพ่อคุณแม่และความสามารถของน้องแฝด ขณะเดียวกันก็แสดงความหนักใจกับค่าเล่าเรียนตลอด 6 ปีข้างหน้า
เหวียนเจิวแทง (Nguyen Chau Thanh) เหวียนซเวินแทง (Nguyen Dan Thanh) กับเหวียนบ๋าวแทง (Nguyen Bao Thanh) ได้กลายเป็นแฝดสามรายแรกของประเทศที่ทำได้เช่นนี้ ในการสอบเอ็นทรานซ์ที่ประกาศผลปลายสัปดาห์ที่แล้ว ทั้งสามคนผ่านเกณฑ์คัดเลือกเข้าศึกษาที่มหาวิทยาลัยการแพทย์และการเภสัชนครโฮจิมินห์ (Ho Chi Minh City Medicine and Pharmacy University) สถาบันที่สร้างบุคคลากรทางการแพทย์ชั้นนำของประเทศมาแล้วเป็นจำนวนมาก
สถาบันการศึกษาเก่าแก่แห่งนี้กำลังเฉลิมฉลอง 66 ปีการก่อตั้ง และจะรับเฉพาะนักศึกษาที่ผ่านการสอบเอ็นทรานซ์ที่ได้คะแนนสูงเท่านั้น สำนักข่าวเวียดนามเอ็กซ์เพรสกล่าว
อย่างไรก็ตาม สามใบเถาไม่ได้มีความประสงค์จะเรียนคณะแพทย์ศาสตร์แม้แต่คนเดียว ซเวินแทงกับเจิวแทงเลือกคณะการเภสัช ส่วนบ๋าวแทงเลือกคณะทันตแพทย์
“ทั้งสามเป็นนักเรียนท็อปมาตลอด 12 ปีที่เรียนมัธยมศึกษา” นางจีงถิทูบา (Trinh Thi Thu Ba) คุณแม่ที่ประกอบอาชีพค้าขายกล่าวกับสำนักข่าวยอดนิยมภาษาเวียดนาม
ครอบครัวของแฝดสามใบเถาพื้นเพเป็นชาว จ.โด่งนาย (Dong Nai) ซึ่งอยู่ติดนครโฮจิมินห์ แต่ส่งลูกสาวทั้งสามไปเรียนมัธยมศึกษาในนครใหญ่ศูนย์กลางเศรษฐกิจของประเทศ คุณแม่บอกว่าทั้งสามคนจะช่วยกันทำการบ้านมาตั้งแต่เล็กๆ หากการบ้านของใครคนใดคนหนึ่งไม่เสร็จก็จะไม่นอน หากไม่เข้าใจก็จะช่วยกันอธิบายจนเข้าใจ พ่อแม่ไม่เคยบอกให้สนใจหรือตั้งใจเรียน ไม่เคยถามเรื่องทำการบ้าน แต่จะทำกันเอง ดูแลกันเอง และกลายเป็นนักเรียนเรียนดีทั้งสามพี่น้อง
“พวกเขามีกฎที่ไม่ประกาศอยู่เรื่องหนึ่งคือ จะต้องช่วยกันทุกอย่างเพื่อประสบความสำเร็จด้วยกัน” นางทูบากล่าว
คุณแม่กล่าวว่าภูมิใจที่สุดในชีวิตที่ได้เลี้ยงลูกทั้งสาม เพราะตอนคลอดมีคนขอ “ซื้อ” ไปเลี้ยง เนื่องจากไม่เชื่อว่าเธอจะมีปัญญาเลี้ยงลูกแฝดสาม และถึงแม้ว่าค่าเล่าเรียนในอีก 6 ปีข้างหน้าจะเป็นเงินมากมายมหาศาลเพียงไรก็ตาม เธอกับสามีจะฟันฝ่ากันต่อไปเพื่อให้ทั้งสามสาวมีอนาคตที่ดี
“ตอนนี้ฉันภูมิใจเป็นที่สุด ลูกๆ โตเป็นผู้ใหญ่กันแล้ว มีคนจำนวนมากที่ทราบข่าวและมาแสดงความยินดีกับครอบครัวของเรา” นางทูบากล่าว
เรื่องนี้ยังเป็นที่กล่าวถึงกันมาในประชาคมออนไลน์เวียดนาม หลายคนถึงกับชมว่าแฝดสามใบเถาสามารถเป็น “โรลโมเดล” ให้กับเยาวชนของทั้งประเทศได้ ชาวเน็ตจำนวนมากอำนวยชัยให้พรขอให้ประสบความสำเร็จ มีอนาคตอันสดใส เพื่อรับใช้สังคมและช่วยเหลือประชาชนในอนาคต
ตามรายงานของหนังสือพิมพ์เตื่อยแจ๋ แฝดสามใบเถาสอบได้คะแนนสูงมาก ไม่เพียงแต่จะผ่านเกณฑ์แอดมิสชั่นของมหาวิทยาลัยการแพทย์และการเภสัชฯ เท่านั้น คะแนนของเจิวแทงกับบ๋าวแทงยังผ่านเกณฑ์ของมหาวิทยาลัยเศรษฐศาสตร์นครโฮจิมินห์ ในขณะที่ซเวินแทงผ่านเกณฑ์คัดเลือกของมหาวิทยาลัยการค้าต่างประเทศ นครโฮจิมินห์เช่นกัน
ทั้งสองสถาบันนี้เป็นสถาบันอุดมศึกษาชั้นนำในระดับต้นๆ ของเวียดนาม และคัดเอาเฉพาะนักเรียนที่ผ่านการสอบเอ็นทรานซ์ที่ได้คะแนนสูงมาก สื่อออนไลน์กล่าว
สำหรับมหาวิทยาการแพทย์และการเภสัชโฮจิมินห์ ก่อตั้งขึ้นในยุคที่ภาคใต้เวียดนามยังเป็นดินแดนอินโดจีนของฝรั่งเศส โดยแต่เดิมแยกกันเป็น 2 วิทยาลัยที่เป็นอิสระต่อกันและพัฒนาต่อมาในหลายยุค จนถึงช่วงหลังเปลี่ยนแปลงการปกครองปี 2518 จึงรวมเป็นสถาบันเดียวกัน ปัจจุบันมหาวิทยาลัยการแพทย์ฯ เปิดสอนเพียง 7 คณะที่เกี่ยวกับการแพทย์และยาล้วนๆ
สถาบันแห่งนี้ยังร่วมกับมหาวิทยาลัยมหิดลของไทย กับมหาวิทยาลัยอีกแห่งหนึ่งของมาเลเซีย เพื่อจัดการประชุมการเภสัชแห่งอาเซียนขึ้นเดือน ธ.ค.2556 ในนครโฮจิมินห์