ศธ.เฝ้าระวัง 28 จุดเสี่ยงนร.ตีกัน

17 พฤษภาคม 2556

ที่อาคารศูนย์เสมารักษ์ กระทรวงศึกษาธิการ(ศธ.)เมื่อเวลา 13.30 น. นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา รมว.ศึกษาธิการ เป็นประธานในพิธีปล่อยขบวนรถยนต์ปฎิบัติการศูนย์เสมารักษ์ ในโครงการ ”ไปเรียนปลอดภัย” ของสำนักการลูกเสือ ยุวกาชาดและกิจการนักเรียนว่า จากข้อมูลและสถิติของสำนักงานลูกเสือและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการแก้ปัญหาก่อเหตุทะเลาะวิวาทของนักเรียน พบว่า จะมีการก่อเหตุบ่อยครั้งในช่วงเปิดภาคเรียนและช่วงเวลากก่อนและหลังเลิกเรียน ศธ.ได้ประสานความร่วมมือกับสถานีตำรวจนครบาล องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ(ขสมก.) และศูนยเสมารักษ์ เพื่อเฝ่าระวังจุดเสี่ยง 28 จุดใน 5โซนครอบคลุม กทม.และปริมณฑล รวมถึงจะมีการจัดหน่วยเครือข่ายเคลื่อนที่เร็ว เพื่อเข้าระงับเหตุเมื่อมีการก่อเหตุทะเลาะวิวาทด้วย

นายศุภกรณ์ วงศ์ปราชญ์ รองปลัด ศธ.กล่าวว่า ช่วงเวลาก่อเหตุจะอยู่ในช่วงเปิดภาคเรียนที่ 1 ก่อนเข้าโรงเรียนและเวลาหลังเลิกเรียนไปจนถึงเวลา 20.30 น. จุดเสี่ยงที่เกิดเหตุ ได้แก่ ป้ายรถประจำทาง ห้างสรรพสินค้า และบริเวณหน้าสถานศึกษา จึงมีการดำเนินโครงการจัดทำแผนปฎิบัติงานแบ่งพื้นที่ออกเป็น5 โซน พร้อมกำหนดจุดเสี่ยงสำคัญเพื่อเฝ้าระวังตั้งแต่วันที่ 16 พฤษภาคม-20 มิถุนายน ในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล

สำหรับจุดเสี่ยงในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล 28 แห่ง ได้แก่ 1.หน้าห้างสรรพสินค้าพาต้าปิ่นเกล้า 2.แยกสวนมิกสักวัน 3.สี่แยกปทุมวัน 4.ป้ายรถประจำทางวิทยาลัยเทคโนโลยีสยาม 5.ป้ายรถประจำทางหน้าโรงเรียนบางปะกอกวิทยาคม 6.ตลอดบางแค 7.ป้ายรถประจำทางหน้าวิทยาลัยวิบูลบริหารธุรกิจสี่แยกท่าพระ 8.ตลาดอ้อมน้อยสี่แยกพุทธมณฑลสาย5 9.วงแหวนเอกชัย-บางบอน10.สามแยกราษฎร์บูรณะ มหาวิทยาลัยราชมงคลธนบุรี 11.ตลาดมีนบุรี 12.ตลาดหนอกจอก 13.ศูนย์การค้าแฟชั่นไอส์แลนด์ ถนนรามอินทรา 14.ซอยมิสทีน ถนนสุขาภิบาล3 15.ศูนย์การค้าเดอะมอลล์บางกะปิ 16.ป้ายรถประจำทางหน้าวัดดอนเมือง 17.สถานีรถไฟดอนเมือง 18.ป้ายรถประจำทางหน้าเซ็นทรัลรามอินทรา 19.อู่รถประจำทาง หน้าวัดพระศรีมหาธาตุ 20.ตลาดสะพานใหม่ดอนเมือง 21.หน้าโรงเรียนไทยวิจิตรศิลป์ 22.สี่แยกเกษตรศาสตร์ 23.หน้าเซ็นทรัลลาดพร้าว 24.แยกบางนา 25.ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลบางนา 26.หน้าโรงเรียนปทุมคงคา27.ห้างสรรพสินค้าอิมพีเรียลสำโรง และ28.ตลาดปากน้ำ

ที่มา: หนังสือพิมพ์คมชัดลึก

http://www.moe.go.th/moe/th/news/detail.php?NewsID=32746&Key=hotnews