21 สิงหาคม 2556
“ทนุศักดิ์” ผงะเจอวิกฤติเด็กเบี้ยวหนี้ กยศ.จี้จัดงานรณรงค์พร้อมสร้างจิตสำนึกให้นักเรียนนักศึกษาใช้หนี้คืน
นายทนุศักดิ์ เล็กอุทัย รมช.คลัง เปิดเผยว่า ในวันที่ 30 ส.ค.นี้ กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) ได้จัดงานเปิดตัวโครงการ “พี่ช่วยน้อง” เพื่อรณรงค์ให้เด็กนักเรียนนักศึกษาที่กู้ยืมเงินจากกยศ.นำเงินมาชำระหนี้คืน หลังจากพบว่าขณะนี้จำนวนหนี้ค้างชำระของนักเรียนนักศึกษาที่ครบกำหนดชำระหนี้แต่ไม่ยอมมาชำระหนี้คืนมากถึง 25% ของจำนวนผู้กู้ทั้งหมด 4 ล้านราย หรือคิดเป็น 1 ล้านราย ขณะที่มีมูลหนี้ค้างชำระประมาณ 50,000 ล้านบาท จากวงเงินปล่อยกู้รวมทั้งสิ้นประมาณ 4 แสนล้านบาท
“เรื่องการผิดนัดชำระหนี้ครั้งนี้ถือว่าเข้าขั้นวิกฤติทางด้านวินัยของคนในชาติอย่างมากในช่วง 17 ปีที่ผ่านมา เพราะการผิดนัดชำระหนี้ครั้งนี้เป็นเพราะเด็กนักเรียนนักศึกษามีค่านิยมที่ผิด หลังจากที่เห็นคนอื่นไม่ยอมชำระหนี้ตัวเองก็ไม่ชำระหนี้คืนตามไปด้วยขณะเดียวกันบางคนก็นำเงินไปซื้อสิ่งของหรือนำไปใช้อย่างอื่นแทนที่จะนำเงินมาชำระหนี้คืน ทำให้ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาสัดส่วนหนี้ค้างชำระมีเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องที่น่าเป็นห่วงอย่างยิ่ง”
นอกจากนี้กระบวนการของกยศ.เองยังขาดความใกล้ชิดกับทั้งนักเรียนนักศึกษาและสถาบันการศึกษา จึงทำให้ความตระหนักในการชำระหนี้คืนมีน้อยลงไปมาก จนทำให้เด็กนักเรียนนักศึกษายอมเข้าสู่กระบวนการของการฟ้องร้องและการไกล่เกลี่ย ซึ่งถือว่าสถานการณ์เช่นนี้มีความน่าเป็นห่วงอย่างมาก ที่ทุกฝ่ายต้องเร่งหามาตรการมากระตุ้นเตือนและชักชวนให้เด็กนักเรียนนักศึกษาที่กู้ยืมเงินกยศ.มาชำระหนี้คืนโดยด่วน
นายทนุศักดิ์ กล่าวว่า ในการจัดงานโครงการพี่ช่วยน้องครั้งนี้ถือว่ามีความสำคัญมากเพราะจะมีโครงการต่าง ๆ เพื่อรณรงค์และกระตุ้นให้เด็กนักเรียนนักศึกษาหันมาใช้เงินคืนให้กับกยศ.เพราะหากไม่ใช้หนี้คืนก็จะไม่มีเงินให้กับเด็กนักเรียนนักศึกษารุ่นน้องต่อ ๆ ไป ซึ่งการหาแนวทางให้เด็กนักเรียนคืนเงินถือว่าเป็นเรื่องที่ดีกว่าการร้องขอให้รัฐบาลเพิ่มเงินงบประมาณให้ โดยภายในงานนี้จะมีการประสานงานเพื่อให้ภาคเอกชนที่เกี่ยวข้องมาร่วมด้วย เพราะกระทรวงการคลังต้องการสนับสนุนให้เด็กนักเรียนนักศึกษามีงานทำด้วย เพื่อจะได้มีเงินใช้หนี้คืนกยศ.ซึ่งในจำนวนเด็กนักเรียนนักศึกษาที่ผิดนัดชำระหนี้ครั้งนี้จะมีประมาณ 40% ที่ยังไม่มีงานทำ
ส่วนนโยบายการใช้กระบวนการเครดิตบูโรหรือการเปิดเผยข้อมูลการกู้ยืมเงินของนักเรียนนักศึกษาเพื่อให้เด็กนักเรียนคืนหนี้นั้นยืนยันว่าไม่ได้เป็นการรังแกเด็กแต่อย่างใดเพราะได้มีระยะเวลาให้เด็กนักเรียนนักศึกษาถึง 5 ปีก่อนเปิดเผยข้อมูลในทางกลับกันถือว่าเป็นเรื่องดีที่กระบวนการเครดิตบูโรจะสร้างความน่าเชื่อถือหรือความมั่นใจให้กับเด็กนักเรียนนักศึกษามากกว่า
ที่มา: http://www.dailynews.co.th
http://www.moe.go.th/moe/th/news/detail.php?NewsID=33780&Key=hotnews

