คอลัมน์: รายงานพิเศษ: บทเรียนจากไทรน้อยครูและชุมชนร่วมจัดการ ร.ร.ขนาดเล็ก

15 พฤษภาคม 2556

สุนทร พงษ์เผ่า นโยบายยุบโรงเรียนขนาดเล็กของกระทรวงศึกษาธิการ ทำให้หลายชุมชนวิตกว่า โรงเรียนเก่าแก่อยู่คู่ชุมชนมานมนาน แต่มีนักเรียนไม่ถึง 60 คน ตามเกณฑ์อาจต้องถูกยุบ ซึ่งจะก่อปัญหาให้ผู้ปกครองที่ต้องรับ-ส่งบุตรหลาน รวมทั้งนักเรียนที่ต้องเดินทางไกลและใช้เวลามากขึ้น

ปัญหานักเรียนมีน้อยนั้นเกิดขึ้นมานานแล้ว แต่สำหรับบางพื้นที่ก็สามารถจัดการกับปัญหานี้ได้ เช่นโรงเรียนประถมศึกษาขนาดเล็กจำนวน 3 โรงเรียนในเขต ต.ไทรน้อย อ.บางบาล จ.พระนครศรีอยุธยา ที่สำเริง บุญล้ำ ผู้อำนวยการโรงเรียนวัดปราสาททองต้องทำหน้าที่รักษาการผู้อำนวยการโรงเรียนอีก 2 แห่ง

สำเริง บอกเล่าประสบการณ์ว่า โรงเรียนวัดปราสาททองที่เขาเป็นผู้อำนวยการมีนักเรียน 72 คนโรงเรียนวัดไทรน้อย มี 49 คน และโรงเรียนวัดบุญกันนาวาส มี 53 คน มีข้าราชการครูรวมทั้งหมด12 คน ครูจัดจ้าง 4 คน แต่ในฐานะที่รักษาการผู้อำนวยการทั้ง 3 โรงเรียน เขาได้บูรณาการครูและงบประมาณของทั้ง 3 โรงเรียนเข้าด้วยกัน โดยทำมากว่า 10 ปีแล้ว

“นักเรียนชั้นอนุบาล-ป.3 จะให้เรียนที่โรงเรียนในชุมชน เพราะเด็กยังเล็กและผู้ปกครองมักเดินมาส่งด้วยตัวเอง โรงเรียนในชุมชนที่ใกล้บ้านจะสะดวกรวมทั้งปลอดภัยและประหยัดค่าใช้จ่าย ส่วนชั้น ป.4-6 จะให้มาเรียนรวมกันที่โรงเรียนวัดปราสาททองโดยมีรถรับส่งฟรีจากชุมชนมายังโรงเรียน”
สำเริง กล่าวว่า เด็ก ป.4-6 โตที่จะเดินทางด้วยตัวเองได้แล้ว หากไม่นำมาเรียนรวมกันก็ทำให้แต่ละโรงเรียนนักเรียนน้อยและครูไม่เพียงพอ หากมีการบริหารจัดการที่ดี โรงเรียนและชุมชนร่วมมือกันบริหารอัตรากำลังครูและงบประมาณ เท่าที่กระทรวงศึกษาธิการจัดมาให้ ยืนยันว่าสามารถรักษาโรงเรียนขนาดเล็กไว้ได้แน่นอน

“ก่อนหน้านี้เคยถามชุมชนว่าจะยุบโรงเรียนดีไหมแต่คนในชุมชนยืนยันว่าไม่ยุบ ต้องการให้มีโรงเรียนไว้ในชุมชนเหมือนที่เคยมีมานานกว่า 60-70 ปี ผมมองว่าหากจะยุบโรงเรียนควรพิจารณาเป็นแห่งๆ ไปหากที่ไหนเล็กแต่ชุมชนต้องการและมีคุณภาพทางการศึกษา สามารถใช้งบประมาณเท่าที่กระทรวงจัดมาให้อย่างคุ้มค่าก็ไม่ควรยุบ”

บทเรียนประสบการณ์ของโรงเรียนและชุมชนไทรน้อย น่าจะเป็นแนวทางให้ทุกฝ่ายหาทางออกที่เหมาะสมกับเรื่องนี้ได้

ที่มา: หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์

http://www.moe.go.th/moe/th/news/detail.php?NewsID=32699&Key=hotnews