16 พฤษภาคม 2556
กว่า 12 ปีแล้ว ที่วิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยี (วษท.) สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) จับมือศูนย์ฝึกอบรมนานาชาติด้านการเกษตรในเขตอราวา (Arava international Center For Agricultural Training : AICAT) ประเทศอิสราเอล ทำโครงการจัดการเรียนการสอนระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง (ปวส.) สาขาพืชศาสตร์ระบบทวิภาคี เปิดโลกกว้างกับการเรียนแบบ Learning by doing เรียนรู้จากการปฏิบัติจริง ขณะเดียวกันครูเกษตรยังสอนให้เคารพกฎเกณฑ์ของธรรมชาติ ฤดูกาล โดยนำมาผสมผสานกับความรู้ที่เป็นเทคโนโลยี ทำให้อาชีวะสร้างคนเกษตรที่มีคุณภาพเต็มร้อยสู่สังคมโลกสีเขียวอย่างต่อเนื่อง
ดร.ชัยพฤกษ์ เสรีรักษ์ เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (กอศ.) กล่าวถึงที่มาของโครงการดังกล่าวว่า สอศ. เห็นความสำคัญของการพัฒนาทักษะการเรียนรู้ทางด้านเกษตรกรรมที่ทันสมัย ดังนั้นจึงดำเนินการจัดความร่วมมือดังกล่าวขึ้น เพราะเห็นว่า ประเทศอิสราเอลมีเทคโนโลยีการเกษตรและระบบชลประทานสมัยใหม่ แม้พื้นที่ส่วนใหญ่จะเป็นทะเลทรายจนสามารถเรียกได้ว่า อิสราเอลเป็นแหล่งที่ผลิตพืชผลที่สำคัญหล่อเลี้ยงผู้คนบนโลกใบนี้อีกแหล่งหนึ่ง
สำหรับแนวทางการดำเนินงานนั้นสอศ.จะคัดเลือกนักศึกษาระดับชั้นประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง (ปวส.)1 จาก วษท. ทั้ง 43 แห่ง มาเตรียมความพร้อมแบบเข้มข้นและศึกษาภาคเรียนที่ 1 ในศูนย์ที่ วษท.ร้อยเอ็ด วษท.มหาสารคาม และวษท.ศรีสะเกษ เพื่อคัดกรองคนที่มีความแข็งแกร่งทั้งด้านร่างกาย จิตใจ มีทักษะในการใช้ภาษาอังกฤษ บินไปเรียนภาคทฤษฎีในห้องเรียน และฝึกปฏิบัติงานฟาร์มของเกษตรกรอิสราเอล ในเขตอราวา เป็นเวลา 11 เดือน โดยทุกคนต้องทำงานวิจัยหรือ Mini Project ซึ่งเป็นโจทย์ที่ตั้งขึ้นและแก้ไขเอง พร้อมนำเสนอก่อนกลับมาเรียนต่อที่ไทยอีก 1 ภาคเรียน โดยภาคเรียนที่ 1/2556 นี้ได้เริ่มขึ้นแล้ว ซึ่งทางฝั่งอิสราเอล Miss Hanni Arnon ผู้อำนวยการ AICAT ได้มาพบกับนักศึกษาระดับ ปวส.1 จำนวน 110 คน ที่กำลังเข้าคอร์สเตรียมความพร้อม โดย Miss Hanni Arnon ยังช่วยติวเข้มให้รู้เคล็ดลับในการเรียน การฝึกอบรม และการดำเนินชีวิตในประเทศอิสราเอลอีกด้วย
“ปีนี้นักศึกษาจะฝึกความพร้อมเป็นเวลา 6 ดือน ใน 3 ด้านหลัก คือ ด้านแรก เตรียมความพร้อมด้านร่างกายและจิตใจ มีครูทหารมาฝึกระเบียบวินัย ความรับผิดชอบ ภาวะผู้นำ ความตรงต่อเวลา และนำน้อง ๆ ออกกำลังทุกวันตั้งแต่ตีห้า ถึงหกโมงเช้า หลังจากนั้นก็ทำกิจกรรมจิตอาสา บำเพ็ญประโยชน์ต่อสังคม และเข้าวัดปฏิบัติธรรม ด้านที่สอง เตรียมความพร้อมด้านวิชาการคือความรู้ที่จะต้องนำไปใช้ ให้เข้าค่าย English Camp เพื่อฝึกพูด เขียน อ่านภาษาอังกฤษ เพราะต้องนำไปใช้ในการเรียน การสื่อสาร ทำงานวิจัย และต้องเรียนรู้เกี่ยวกับการใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์ต่าง ๆเพื่อใช้ในการบันทึกผลงาน ทำรายงาน ทำงานวิจัย ความรู้ที่ต้องเตรียมอีกด้านหนึ่งคือความรู้ด้านสถิติการวางแผนการทดลอง เพราะน้อง ๆ ต้องไปทำรายงานเกี่ยวกับการวิเคราะห์ดิน ศึกษาการเจริญเติบโตของพืชผัก ทำ Mini Project ส่งสถาบัน AICAT และด้านที่สาม คือการฝึกทักษะด้านพืชศาสตร์โดยนักศึกษาจะต้องลงปฏิบัติงานจริงในฟาร์ม เพื่อให้เกิดความชำนาญ ทั้งเรื่องของการเตรียมดินการปลูก การดูแลรักษา การจัดจำหน่าย โดยนักศึกษาจะได้เรียนรู้งานจากเจ้าของฟาร์มชาวอิสราเอลโดยตรง ซึ่งตลอดเวลา 11 เดือน จะมีครูคนไทยไปอยู่ดูแลและให้คำปรึกษาด้วย” ดร.ชัยพฤกษ์กล่าว ถือเป็นอีกหนึ่งโอกาสที่สำคัญของน้อง ๆ นักศึกษาจากวิทยาลัยเกษตรจะได้เก็บเกี่ยวความรู้วิทยาการและเทคโนโลยีทางการเกษตรมาใช้พัฒนาการเกษตรของบ้านเราต่อไป ผู้สนใจโครงการสอบถามรายละเอียดได้ที่กลุ่มประชาสัมพันธ์ สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) www.vec.go.th
ที่มา: หนังสือพิมพ์มติชน
http://www.moe.go.th/moe/th/news/detail.php?NewsID=32721&Key=hotnews

