คอลัมน์: เรืองชัย ทรัพย์นิรันดร์: เหตุผลหนึ่งที่ต้องยุบโรงเรียนขนาดเล็ก?

17 พฤษภาคม 2556

วันเปิดภาคเรียนแรกประจำปีการศึกษา 2556 ตรงกับวันศุกร์ที่ 17 พฤษภาคม 2556 ปีนี้ น่าจะเป็นปีสุดท้ายของการเปิดภาคเรียนแรกประจำปีการศึกษา เนื่องจากปีต่อไปจะเปิดภาคเรียนแรกตรงกับการเปิดภาคเรียนแรกของปีการศึกษาเช่นเดียวกับสากล และกลุ่มประเทศอาเซียน คือ ระหว่างเดือนกรกฎาคม หรือสิงหาคม

ปีการศึกษา 2556 การเปิดภาคเรียนปีนี้ อาจมีบางโรงเรียนเปิดเรียนก่อนหน้านี้ บางโรงเรียนเปิดหลังจากวันนี้ แต่ไม่ว่าจะเปิดภาคเรียนวันนี้ ก่อนหน้านี้ หรือหลังจากวันนี้เป็นต้นสัปดาห์หน้า ประการหนึ่งสำหรับผู้ที่อยู่ในกรุงเทพมหานคร หรือตามเมืองใหญ่ ต่างมีปัญหาการจราจรติดขัดทั้งยามเช้าและยามเย็น

กว่าการจราจรจะอยู่ตัว หรือกว่าผู้ใช้รถใช้ถนนจะคุ้นชินกับการจราจรติดขัดคงต้องเลย จากต้นเดือนหน้าไปแล้ว เพราะต้นเดือนมิถุนายน เป็นการเปิดภาคเรียนสมบูรณ์แบบตั้งแต่การศึกษาขั้นพื้นฐานไปถึงอุดมศึกษา ซึ่งมหาวิทยาลัยจะทยอยกันเปิดภาคเรียน

ระหว่างสัปดาห์ที่ผ่านมา เชื่อว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรในทุกท้องที่ โดยเฉพาะตามหน้าโรงเรียนที่มีการรับส่งนักเรียนด้วยรถของ ผู้ปกครองจะแน่นเป็นพิเศษเช่นปีที่ผ่านมา และ คงไม่สามารถแก้ปัญหาได้ เพราะปริมาณรถที่เพิ่มขึ้น และผู้ปกครองที่มีภาระในการรับส่งลูกหลานไปโรงเรียนเพิ่มมากขึ้น รวมไปถึงปริมาณการขนส่งผู้โดยสารระบบขนส่งมวลชนยังไม่เป็นระเบียบเท่าที่ควร การจราจรโดยเฉพาะในกรุงเทพมหานครจึงขัดข้องไปแทบว่าทุกท้องถนน

การเปิดภาคเรียนใหม่ เด็กและเยาวชนไทยซึ่งเข้าสู่ระบบการศึกษามีทั่วประเทศ โดย เฉพาะในระดับประถมศึกษาตั้งแต่ประถมศึกษาปีที่ 1  ที่เริ่มเข้าเรียนในโรงเรียนขนาดกลางและขนาดใหญ่ไม่มีปัญหา กลับไปมีปัญหาที่โรงเรียนขนาดเล็ก ซึ่งมีนักเรียนต่ำกว่า 60 คน ลงมา

พูดและคิดกันมานานเรื่องการยุบรวมโรงเรียนขนาดเล็ก ให้นักเรียนที่มีอยู่ในบริเวณนั้นไปเรียนร่วมกับโรงเรียนขนาดกลาง หรือกับขนาดเล็กด้วยกัน เป็นโรงเรียนที่มีนักเรียนเกินกว่า 60 คนขึ้นไป ทั้งยังกล่าวว่า การยุบรวมโรงเรียน หรือการยุบเลิกโรงเรียนขนาดเล็กมีมาหลาย ครั้งแล้ว ด้วยเหตุผลที่แตกต่างกันไป

ปัญหาของระบบการศึกษาไทยน่าจะไม่ใช่ เรื่องขนาดของโรงเรียนว่ามีขนาดเล็ก กลาง หรือใหญ่ แต่น่าจะเป็นด้วยระบบการ ศึกษาของไทยใช้ระบบจำนวนนักเรียนเป็น ตัวตั้งไม่ได้ใช้ระบบคุณภาพการศึกษา หรือระบบทุกคนต้องได้รับการศึกษา คือการศึกษาภาค บังคับที่เด็กไทยต้องได้รับการศึกษาตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยพุทธศักราช 2550 ไม่น้อยกว่า 12 ปี ที่รัฐต้องจัดให้อย่าง ทั่วถึงและมีคุณภาพ โดยไม่เก็บค่าใช้จ่าย ไม่นับผู้ยากไร้ ผู้พิการ หรือทุพพลภาพ หรือผู้ที่อยู่ในสภาวะยากลำบากที่ต้องได้รับสิทธินั้นและการสนับสนุนจากรัฐอยู่แล้ว เพื่อให้ได้รับการศึกษาเท่าเทียมกับบุคคลอื่น

ทั้งการจัดระบบการศึกษาที่ให้มีการกระจาย ออกไปยังการปกครองส่วนท้องถิ่น ทำให้ท้องถิ่นมีโอกาสจัดการศึกษาในระบบการศึกษาขั้นพื้นฐานทั้งระดับประถมศึกษาและมัธยมศึกษาได้ ยังไม่มีการดำเนินการไปถึงไหน มีเพียงองค์การบริหารส่วนตำบลและส่วนจังหวัดไม่กี่แห่งที่รับภาระจัดการโรงเรียนเช่นเดียวกับเมืองพัทยาและกรุงเทพมหานคร

การที่ประเทศไทยมีโรงเรียนขนาดเล็กไม่น่าจะเป็นปัญหาหรือเป็นอุปสรรคแต่อย่างใด หากโอนการศึกษาไปให้องค์การบริหารส่วนท้องถิ่นดำเนินการ ยกเว้นเรื่องของหลักสูตร เพราะระบบการศึกษาไทยยังมีโครงสร้าง ไต่ระดับจากข้างล่างขึ้นไปข้างบน หรือยังมีตำแหน่งแห่งหนที่ไม่เท่าเทียมกัน คือผู้บริหารโรงเรียนระดับผู้อำนวยการโรงเรียนมีโอกาสไต่ระดับจากผู้บริหารโรงเรียนขนาดเล็กไปเป็น ผู้บริหารโรงเรียนขนาดกลาง ถึงผู้บริหารโรงเรียน ขนาดใหญ่ จากนั้นยังมีโอกาสเป็นผู้บริหาร ระดับ 9 ระดับ 10 หรือมีโอกาสไต่เต้าขึ้นไปเป็นผู้บริหารระดับสูงกว่านั้น ในสังกัดกระทรวงศึกษาธิการ

จึงไม่มีใครอยากไปสังกัดองค์การบริหารส่วนตำบล หรือส่วนจังหวัด หรือแม้แต่ เทศบาลนคร

ที่มา: หนังสือพิมพ์มติชน

http://www.moe.go.th/moe/th/news/detail.php?NewsID=32739&Key=hotnews