คอลัมน์: โบ้ย ก.ค.ศ.ชี้ทางคืนอำนาจเขตฯ คัด ผอ.โรงเรียนพรีเมียม

14 มิถุนายน 2556

เมื่อวันที่ 13 มิถุนายน นายชินภัทร ภูมิรัตน เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) เปิดเผยกรณีที่สมาคมกรรมการการศึกษา ขั้นพื้นฐานแห่งประเทศไทย ยื่นหนังสือต่อนายพงศ์เทพ เทพกาญจนา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เพื่อให้คณะอนุกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (อ.ก.ค.ศ.) เขตพื้นที่การศึกษา เป็นผู้พิจารณาแต่งตั้งผู้บริหารโรงเรียนกลุ่มพรีเมียม แทนการให้คณะกรรมการกลั่นกรองของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) เป็นผู้พิจารณาคัดเลือกว่า การมีคณะกรรมการกลั่นกรองการย้ายผู้บริหารโรงเรียนพรีเมียม ได้ดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2554 โดยเป็นไปตามมติของคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) และหนังสือเวียนสำนักงาน ก.ค.ศ.ที่ ศธ 0206.4/ว9 ลงวันที่ 29 กรกฎาคม 2554 ที่ต้องการเปิดกว้างให้ผู้ประสงค์ที่จะขอย้ายเข้าโรงเรียนวัตถุประสงค์พิเศษ และโรงเรียนคุณภาพพิเศษได้มากขึ้น และสามารถสรรหาผู้ที่มีความรู้ความสามารถที่เหมาะสมมาดำเนินการได้

“การกลั่นกรองเป็นเพียงขั้นตอนหนึ่ง แต่ อำนาจการอนุมัติแต่งตั้งเป็นอำนาจของ อ.ก.ค.ศ. เขตพื้นที่ฯอยู่แล้ว จึงไม่ได้เป็นการก้าวล่วงในเชิงของกฎหมาย ซึ่งการกลั่นกรองก็เป็นเพียงการ กลั่นกรองคุณสมบัติ และผลงานประสบการณ์ในเบื้องต้น เพื่อส่งคะแนนและผลการกลั่นกรองไปให้ อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่ฯ ฉะนั้นไม่ได้ก้าวล่วงอำนาจของ อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่ฯแต่อย่างใด โดย สพฐ.พร้อม คืนอำนาจการกลั่นกรองไปให้ อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่ฯ แต่คงต้องนำเรื่องดังกล่าวเข้าสู่การพิจารณาในที่ประชุม ก.ค.ศ.พิจารณา” เลขาธิการ กพฐ.กล่าว และว่า ในการประชุม กพฐ.ครั้งที่ผ่านมา ได้หารือ เรื่องการแต่งตั้งผู้บริหารโรงเรียนพรีเมียม ซึ่งที่ ประชุมเห็นว่า หาก ก.ค.ศ.สามารถปรับหลักเกณฑ์ เพื่อให้เกิดการพิจารณาผู้ที่จะขอย้ายข้ามเขตเข้า มาได้และได้คนดีคนเก่งมีความรู้ความสามารถที่เหมาะสมมาทำงานให้แก่โรงเรียน เพื่อพัฒนาคุณภาพให้สูงยิ่งขึ้นต่อไปได้ ก็ถือว่าการกลั่นกรองจากส่วนกลาง ไม่น่าจะมีความจำเป็น ทั้งนี้เมื่อ 3 ปีที่ผ่านมาเคยมีการพูดกันว่า เมื่อโรงเรียนพรีเมียมเป็นโรงเรียนที่ให้บริการแก่นักเรียนทั่วประเทศ ดังนั้นก็ต้องเป็นโรงเรียนที่เขตบริการ คือประเทศไทย จึงไม่ควรจำกัดเฉพาะให้คนในเขต พื้นที่ฯเท่านั้น ที่จะมาเป็นผู้บริหารโรงเรียนพรีเมียม และโรงเรียนเหล่านี้ควรมีผู้บริหารที่มีศักยภาพ มีประสบการณ์ระดับแนวหน้าของประเทศมาบริหาร

ผู้สื่อข่าวถามว่า กรณีสมาคมกรรมการฯระบุว่ามีกระแสข่าวการวิ่งเต้นโยกย้ายผู้บริหารแลกกับเงิน 7 หลักนั้น นายชินภัทรกล่าวว่า เรื่องนี้สำนักงาน ก.ค.ศ.จะต้องสอดส่องดูแล และรับ ข้อมูลข้อร้องเรียนต่างๆ มาประกอบการปรับปรุงระบบการบริหารงานบุคคล โดยเรื่องนี้ควรมีเจ้าภาพ เพราะถ้าให้ สพฐ.ลงมาดำเนินการก็จะเกิดความ ลักลั่น เพราะ สพฐ.ไม่มีอำนาจโดยตรงในการกำกับดูแล อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่ฯ

ที่มา: หนังสือพิมพ์มติชน

http://www.moe.go.th/moe/th/news/detail.php?NewsID=33021&Key=hotnews