จี้จัดชั่วโมงฝึกภาษา ครู-น.ร.อาเซียน ศธ.ชี้ ร.ร.ตื่นตัวแต่ขาดครูต่างชาติ-คุณภาพสอน

3 กันยายน 2556

สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (สช.) สำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย (กศน.) และอาชีวศึกษา มีการเปิดหลักสูตรมินิอิชลิชโปรแกรมมากขึ้น แต่สำหรับนักศึกษาของกศน.มีผู้เรียนหลักสูตรนี้ออกกลางคันจำนวนมาก เนื่องจากส่วนหนึ่งมีงานทำแล้ว และด้วยความไม่คุ้นเคยกับสำเนียงของชาวต่างชาติทำให้ยาก ต่อการสื่อสารให้เข้าใจและขาดความตั้งใจ “สถานศึกษาหลายแห่งในเขตนี้ มีนักเรียนชาวพม่า กัมพูชา และเวียดนาม ที่ย้ายติดตามผู้ปกครอง ซึ่งมาเป็นแรงงานกระจายอยู่ในสถานประกอบการขนาดเล็กเพิ่มขึ้น ส่วนใหญ่มีผลการเรียนดี โดยได้เสนอให้ร.ร.ใช้โอกาสนี้ ฝึกทักษะครู นักเรียน กับภาษาของแต่ละชาติไปพร้อมกัน และมีข้อเสนอแนะในเขตอุตสาหกรรมและในตัวเมืองนนทบุรี ปทุมธานี มีแรงงานพม่า กัมพูชา เวียดนาม ลาว มากขึ้น สพฐ.ควรมีนโยบายจัดชั่วโมงให้เด็กแต่ ละชาติแสดงออกแลกเปลี่ยนภาษาและวัฒนธรรม นอกเหนือจากเรียนรู้ภาษาอังกฤษ จีน” น.ส.จุไรรัตน์กล่าว

น.ส.จุไรรัตน์ แสงบุญนำ หัวหน้าผู้ตรวจราชการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) กล่าวว่า จากผลตรวจราชการในพื้นที่เขตตรวจราชการที่ 1 และกทม. ตามนโยบายของรัฐบาล พบว่าเรื่อง การเตรียมความพร้อมสู่ประชาคมอาเซียน มีความคล้ายคลึงกันทุกสังกัด คือ มีความตื่นตัว และเน้นพัฒนาทักษะการสื่อสารภาษาอังกฤษของบุคลากรในหน่วยงาน และการอบรมพัฒนาทักษะครูไทย ที่สอนภาษาอังกฤษ โดยบางแห่งร่วมมือกับศูนย์ ERIC ตลอดจนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้เรื่องอาเซียน จัดทำคู่มือการพัฒนาทักษะการสื่อสารภาษาอังกฤษ จัดหาครูอาสามาสอนภาษาอังกฤษ และเปิดสอนภาษาจีน ญี่ปุ่น และแม้ว่าเขตพื้นที่การศึกษาหลายแห่งจ้างครูชาวต่างชาติให้กับร.ร.เพิ่มขึ้น แต่ภาพรวมยังไม่พอเพียง ทั้งด้านจำนวนและมาตรฐานคุณภาพของผู้สอนภาษา

หัวหน้าผู้ตรวจราชการ ศธ.กล่าวต่อว่า สถานศึกษาหลายแห่งทั้งของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษา ขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (สช.) สำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย (กศน.) และอาชีวศึกษา มีการเปิดหลักสูตรมินิอิชลิชโปรแกรมมากขึ้น แต่สำหรับนักศึกษาของกศน.มีผู้เรียนหลักสูตรนี้ออกกลางคันจำนวนมาก เนื่องจากส่วนหนึ่งมีงานทำแล้ว และด้วยความไม่คุ้นเคยกับสำเนียงของชาวต่างชาติทำให้ยาก ต่อการสื่อสารให้เข้าใจและขาดความตั้งใจ

“สถานศึกษาหลายแห่งในเขตนี้ มีนักเรียนชาวพม่า กัมพูชา และเวียดนาม ที่ย้ายติดตามผู้ปกครอง ซึ่งมาเป็นแรงงานกระจายอยู่ในสถานประกอบการขนาดเล็กเพิ่มขึ้น ส่วนใหญ่มีผลการเรียนดี โดยได้เสนอให้ร.ร.ใช้โอกาสนี้ ฝึกทักษะครู นักเรียน กับภาษาของแต่ละชาติไปพร้อมกัน และมีข้อเสนอแนะในเขตอุตสาหกรรมและในตัวเมืองนนทบุรี ปทุมธานี มีแรงงานพม่า กัมพูชา เวียดนาม ลาว มากขึ้น สพฐ.ควรมีนโยบายจัดชั่วโมงให้เด็กแต่ ละชาติแสดงออกแลกเปลี่ยนภาษาและวัฒนธรรม นอกเหนือจากเรียนรู้ภาษาอังกฤษ จีน” น.ส.จุไรรัตน์กล่าว

–ข่าวสด ฉบับวันที่ 4 ก.ย. 2556 (กรอบบ่าย)–

http://www.moe.go.th/moe/th/news/detail.php?NewsID=33966&Key=hotnews