16 สิงหาคม 2556
ดึงผลงานแก้ยาเสพติดให้ความชอบ ร.ร. คาดโทษสถานศึกษาละเลยปัญหา แฉ นร.ยุ่งเกี่ยว 3%-ย้ำห้ามไล่เด็กออก…
นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รมช.ศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยถึงนโยบายป้องกันปัญหายาเสพติดในกลุ่มนักเรียน นักศึกษาว่า เป็นนโยบายหลักของศธ. ซึ่งได้มอบหมายให้สถานศึกษาทุกแห่งทำการเอกซเรย์นักเรียน นักศึกษาทั่วประเทศว่ามีผู้เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดจำนวนมากน้อยแค่ไหน หากได้ข้อมูลที่ชัดเจนแล้วให้นำผู้ติดยาเสพติดไปบำบัดรักษา ขณะเดียวกัน จะมีการขยายผลไปหาผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งผู้เสพรายอื่น และผู้ค้า ซึ่งจะต้องประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไปดำเนินการต่อไป ทั้งนี้ ตนได้เน้นย้ำสถานศึกษาทุกแห่ง เมื่อตรวจพบว่ามีนักเรียนนักศึกษาคนใดเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดจะต้องไม่ให้มีการไล่นักเรียนนักศึกษาออกอย่างเด็ดขาด โดยต้องถือว่าเด็กกลุ่มนี้เป็นผู้เสพที่จะต้องได้รับการบำบัด หากเราผลักเด็กออกจากสถานศึกษาย่อมเป็นการผลักภาระ หรือผลัก ปัญหาไปให้สังคมโดยที่ไม่ได้มีการแก้ไข อย่างไร ก็ตาม ข้อมูลล่าสุดที่ ศธ.ได้รวบรวมพบว่า มีนักเรียนนักศึกษาเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด ประมาณ 2-3 เปอร์เซ็นต์ ในจำนวนดังกล่าวส่วนใหญ่เป็นเด็กมัธยมศึกษาถึงอุดมศึกษา รวมนักศึกษาอาชีวศึกษาด้วย ดังนั้น สถานศึกษาที่ตรวจพบแล้วว่ามีนักเรียน นัก ศึกษาเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดจะต้องเร่งหากลยุทธ์ในการคลี่คลายและ ป้องกันปัญหาเพื่อไม่ให้คนอื่นๆ เข้าไปสู่วงจรยาเสพติดไม่ว่าจะเป็นกลุ่มใดก็ตาม
“สำหรับสถานศึกษาที่สามารถป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดได้อย่างมีประสิทธิภาพ ผมมีแนวคิดที่จะให้นำผลงานมาใช้ประกอบการพิจารณาความดีความชอบให้แก่ผู้บริหารสถานศึกษาและคณาจารย์ในโรงเรียนนั้นๆ เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจ ส่วนสถานศึกษาใดที่ปล่อยปละละเลย ซุกปัญหาไว้ใต้พรม ไม่แจ้งข้อมูลข้อเท็จจริง หากทราบก็จะถือว่าเป็นสถาบันยอดแย่ ซึ่งผู้บริหารและคณาจารย์ต้องมีส่วนรับผิดชอบ ผมอยากให้ทุกสถานศึกษาดูแลเด็กเหมือนดูแลลูกของตัวเอง เพราะหากอนาคตของชาติเข้าไปสู่วังวนยาเสพติด อนาคตประเทศชาติก็คงฝากความหวังไว้ที่ใครไม่ได้” รมช.ศธ.กล่าว.
ที่มา: http://www.thairath.co.th
http://www.moe.go.th/moe/th/news/detail.php?NewsID=33718&Key=hotnews

