‘มหา’ลัยเถื่อน’ ผุดอีก 2 แห่ง สกอ.ตั้งศูนย์ปราบแล้ว ‘กำจร’ เชื่อยังไม่มีการเจาะข้อมูลสถาบันทำวุฒิปลอม

17 กรกฎาคม 2556

พญาไท * เผยมีมหา’ลัยเถื่อนผุดอีก 2 แห่ง ด้าน สกอ.ตั้งศูนย์ปราบแล้ว รวมพวกปลอมวุฒิด้วย “กำจร” ชี้จะจับขบวนการได้ มหา’ลัยต้องร่วมเป็นเจ้าทุกข์ ปัดยังไม่มีการเจาะฐานข้อมูลมหา’ลัยเพิ่มชื่อคนจบการศึกษา แต่หากประกาศใช้ร่าง พ.ร.บ.การอุดมศึกษาฯ ปัญหานี้จะหมดไป
รศ.นพ.กำจร ตติยกวี รองเลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา (กกอ.) เปิดเผยถึงหลังจากที่ ศ.ภาวิช ทองโรจน์ อดีตที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ออกมาเตือนสถาบันการศึกษาเรื่องการโฆษณาปลอมวุฒิผ่านเว็บไซต์ ทำให้ขณะนี้มีผู้มาให้ข้อมูลกับตนเพิ่มเติม เป็นมหาวิทยาลัย 2 แห่งที่ไม่ได้รับขออนุญาตดำเนินการเป็นมหาวิทยาลัยในประเทศไทย ลักษณะเดียวกันกับมหาวิทยาลัยอดัมสัน ประเทศฟิลิปปินส์ และมหาวิทยาลัยโรชวิลล์ ประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งกำลังอยู่ในระหว่างตรวจสอบข้อเท็จจริง

ส่วนการจัดตั้งศูนย์ปราบปรามที่จะมาจัดการการรับจ้างปลอมวุฒิการศึกษาและมหาวิทยาลัยเถื่อน ขณะนี้แม้จะยังไม่มีการจัดตั้งเป็นทางการ แต่สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) ก็ทำหน้าที่เหมือนศูนย์รับร้องเรียนเรื่องดังกล่าวอยู่แล้ว การจัดตั้งศูนย์ปราบปรามฯ จะนำกรณีศึกษาจากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์และมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช ซึ่งเคยเป็นผู้เสียหายหลังจากถูกเว็บไซต์บางแห่งอ้างชื่อและเผยแพร่ตราสัญลักษณ์ของมหาวิทยาลัย สุดท้ายสามารถติดตามหาผู้ทำผิดมาลงโทษได้

“ปัญหาการจับกุมกลุ่มมิจฉาชีพเหล่านี้คือ หากเราให้ข่าวผ่านสื่อมาก พวกนี้จะก็ไหวตัวทัน จับได้แต่ผู้ซื้อวุฒิปลอม ในข้อหาใช้เอกสารเท็จ หรือจับได้แต่พวกปลาซิวปลาสร้อย ไม่สามารถจับต้นตอได้ ส่วนการโพสต์ผ่านเว็บไซต์ว่ารับทำวุฒิปลอมนั้นยังทำอะไรไม่ได้มาก เพราะไม่มีตัวบุคคลที่จะกล่าวหา หากจะดำเนินคดีคงต้องอาศัย พ.ร.บ.การกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 มาดำเนินการ แต่หากสถาบันการศึกษาไหนพบว่ามีการแอบอ้างชื่อ นำตราสัญลักษณ์มหาวิทยาลัยไปโฆษณาชวนเชื่อ หรือจับได้ว่ามีการใช้วุฒิปลอม ก็ต้องเป็นเจ้าทุกข์กล่าวโทษ ซึ่งก็จะใช้กฎหมายอาญามาดำเนินการได้” รศ.นพ.กำจรกล่าว

ส่วนกรณีที่มีการระบุว่ากลุ่มมิจฉาชีพสามารถเจาะฐานข้อมูลมหาวิทยาลัยเพื่อเพิ่มรายชื่อได้นั้น จากการตรวจสอบปัจจุบันยังไม่พบมหาวิทยาลัยใดเจอปัญหานี้ แต่ที่อาจเป็นไปได้คือ การซื้อตัวเจ้าหน้าที่ที่ดูแลฐานข้อมูล อย่างไรก็ตาม ปัญหานี้แก้ได้หากใช้ ร่าง พ.ร.บ.การอุดมศึกษา พ.ศ… ซึ่งให้อำนาจ สกอ.ขอข้อมูลจากมหาวิทยาลัย โดยเฉพาะข้อมูลนิสิตนักศึกษามาเก็บไว้ได้ โดยจะต้องเป็นข้อมูลที่สถาบันการศึกษารับรองแล้ว พร้อมตัวเลขบัตรประชาชน 13 หลัก มีรายละเอียดการเรียนของแต่ละบุคคล ทั้งเกรดรายวิชา เกรดเฉลี่ย หากบุคคลใดถูกรีไทร์หรือออกกลางคัน ก็จะระบุว่าออกไปปีไหน ซึ่งฐานข้อมูลที่เก็บไว้ที่ สกอ.และมหาวิทยาลัยจะต้องตรงกัน เมื่อมีการร้องขอให้ตรวจสอบ ก็จะต้องตรวจสอบที่ สกอ.และมหาวิทยาลัย หากตรงกันก็เชื่อถือได้ แต่หากข้อมูลของฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดไม่ตรง ก็ให้ตั้งข้อสันนิษฐานได้ว่าเกิดปัญหาขึ้น จะได้เข้าไปตรวจสอบต่อไป

ขณะที่นายอภิชาติ จีระวุฒิ เลขาธิการ กกอ. กล่าวว่า ขณะนี้ สกอ.ได้จัดตั้งศูนย์ดังกล่าวเรียบร้อยแล้ว โดยมีตนเป็นประธาน ซึ่งจากนี้หากใครมีข้อมูลหรือเบาะแสของกลุ่มมิจฉาชีพกับเรื่องดังกล่าว สามารถแจ้งได้ที่ โทร.0-2610-5451 หรือ 0-2610-9200 ต่อ 5451.

ที่มา: หนังสือพิมพ์ไทยโพสต์

http://www.moe.go.th/moe/th/news/detail.php?NewsID=33377&Key=hotnews