15 พฤษภาคม 2556
นายสัมนา ฉัตรบูรณจรัส ผอ.ร.ร.บ้านบุใหญ่ ต.สูงเนิน อ.สูงเนิน จ.นครราชสีมา แกนนำเครือข่าย ร.ร.ขนาดเล็ก สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครราชสีมา เขต 4 (สพป.นม.4) กล่าวถึงแนวคิดการยุบรวมและควบรวม ร.ร.เล็กว่า สถานศึกษาของตนอยู่ในเกณฑ์จะต้องถูกยุบรวม เนื่องจากเป็น ร.ร.ขนาดเล็ก มีนักเรียนต่ำกว่า 60 คน จากการหารือกับกลุ่มผู้บริหารและบุคลากรทางการศึกษา สพป.นม.4 ซึ่งมี ร.ร.ขนาดเล็กทั้งสิ้น 119 แห่ง แยกเป็นสถานศึกษาที่มีจำนวนนักเรียนต่ำกว่า 120 คน 90 แห่ง และต่ำกว่า 60 คน 29 แห่ง
แนวทางข้อตกลงในกลุ่มเครือข่าย เห็นว่าต้องพึ่งพาอาศัยกัน มิเช่นนั้นนักเรียนของแต่ละร.ร. จะลดลงไปเรื่อยๆ ส่งผลถึงขวัญและกำลังใจบุคลากรทางการศึกษา โดยเปิดภาคเรียนใหม่ จะเริ่มใช้รูปแบบร.ร.พี่-ร.ร.น้อง โดยให้สถานศึกษาที่ตั้งอยู่ในรัศมีไม่เกิน 5 กิโลเมตร จับกลุ่มในลักษณะเรียนร่วมกัน โดยใช้ครูผู้สอน ที่ถนัดในแต่ละกลุ่มสาระวิชา รับผิดชอบในแต่ละชั้นปี ส่วนการเดินทางขอสนับสนุนจาก อปท. และ ผู้ปกครอง หากยุบร.ร.ขนาดเล็ก เป็นการแก้ปัญหาไม่ตรงจุด สพฐ. ต้องกลับมาทบทวนระบบการศึกษาด้วย
นายชลอ แยกโคกสูง ผอ.ร.ร.บ้านหมื่นไวย ต.หมื่นไวย อ.เมือง จ.นครราชสีมา สังกัด สพป.นม.1 กล่าวว่า เปิดสอนมาร่วม 60 ปี ล่าสุดเหลือนักเรียน 40 คน เป็นโจทย์ให้ครูผู้สอน ซึ่งมีเพียง 2 คน รับผิดชอบนักเรียนที่ศึกษาต่างช่วงชั้นซึ่งมีปัญหาตามมา หากระบบการศึกษาเมืองไทยมีสองมาตรฐานก็สมควรยุบ แต่ถ้าไม่ให้ยุบ สพฐ.ต้องจัดส่งครูผู้สอนมาเพิ่มเติม รวมทั้งสนับสนุนงบฯ สื่อการเรียนการสอนให้เท่าเทียมกัน จะเป็นแรงดึงดูดให้ผู้ปกครองส่งบุตรหลานมาเรียนเพิ่มขึ้น
แนวคิดการเรียนร่วมกับ ร.ร.ที่ตั้งอยู่ในละแวกใกล้เคียง บรรเทาปัญหาขาดครู เสนอไปแล้ว เตรียมปรับใช้ในเทอมหน้า โดยร่วมกับร.ร.ชุมชนประโดก-โคกไผ่ ที่ตั้งห่างออกไปประมาณ 1.5 ก.ม.
–ข่าวสด ฉบับวันที่ 16 พ.ค. 2556 (กรอบบ่าย)–
http://www.moe.go.th/moe/th/news/detail.php?NewsID=32706&Key=hotnews

