สพฐ.เดินหน้าลดชั่วโมงในชั้นเรียน เพิ่มกิจกรรมนอกห้องเรียนแก้เด็กเครียด

8 มีนาคม 2556

นายชินภัทร ภูมิรัตน เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) เปิดเผยว่า สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน(สพฐ.) มีนโยบายจะปรับปรุงหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน ปรับโครงสร้างเวลาเรียน และปรับลดจำนวนการบ้านที่นักเรียนได้รับ และหลังจากศึกษาเปรียบเทียบกับประเทศอื่นๆ อาทิ เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น สหรัฐอเมริกา อังกฤษ และแคนาดา สพฐ.ได้ตัดสินใจปรับโครงสร้างเวลาเรียนใหม่ทุกระดับตั้งแต่ระดับประถมต้น ประถมปลาย มัธยมต้นและมัธยมปลาย อย่างไรก็ตาม การปรับโครงการสร้างเวลาเรียนครั้งนี้ยังไม่ใช่การปรับใหม่ จำนวนชั่วโมงเรียนต่อปี ต่อสัปดาห์ หรือต่อวัน ยังคงเท่าเดิมตามที่กำหนดไว้ในหลักสูตร แต่ภายใต้จำนวนชั่วโมงเรียนเท่าเดิมนั้น จะลดจำนวนชั่วโมงเรียนในชั้นเรียนลง เทเวลาเรียนมาให้กับการทำกิจกรรมนอกห้องเรียนมากขึ้นซึ่งการลดจำนวนชั่วโมงเรียนในชั้นเรียนลงได้สามารถทำได้โดยไม่ส่งกระทบหากครูใช้การเรียนการสอนแบบบูรณาการ ขณะเดียวกันจะมีการปรับสัดส่วนการเรียนวิชาต่างๆ ของนักเรียนแต่ละระดับชั้นด้วย จากเดิมที่ให้สัดส่วนเวลาเรียนทุกวิชาเท่าๆ กัน ก็จะเปลี่ยนมามีจุดเน้นให้ตรงตามวัย โดยระดับประถมต้นโดยเฉพาะ ป.1-2 จะเน้นการเรียนรู้ทักษะด้านภาษาเป็นหลัก จนถึงระดับประถมปลายจึงจะเพิ่มเติมทักษะด้านการคิดคำนวณ ส่วนระดับมัธยมต้น จะเพิ่มเติมทักษะในการแสวงหาความรู้ให้กับเด็ก และมัธยมปลาย จะเน้นให้เด็กนำความรู้ที่เรียนมาประยุกต์ใช้ได้

เลขาธิการ กพฐ. กล่าวต่อว่า สำหรับเรื่องการปรับลดให้การบ้านนั้น สพฐ.ได้ศึกษาและพบว่า การบ้านบางประเภทนั้นไม่เหมาะสมจะให้นักเรียนกลับมาทำที่บ้าน เช่นการบ้านประเภทแก้โจทย์ปัญหา หรือ ProblemSolving เพราะการบ้านประเภทนี้มีความซับซ้อนและยากเกินกว่าที่เด็กจะทำได้โดยลำพัง กลายเป็นการสร้างความเครียดให้เด็กและไม่ก่อให้เกิดประโยชน์ด้วย ในต่างประเทศนั้นการบ้านประเภทนี้จะให้นักเรียนทำที่โรงเรียนโดยมีครูเป็นพี่เลี้ยง และเปิดโอกาสให้เกิดการถกเถียงกันในการแก้โจทย์ปัญหา อย่างไรก็ตามการบ้านบางประเภทยังมีความสำคัญอยู่ เช่นการบ้านประเภททบทวนและเพิ่มความชำนาญเพราะฉะนั้น จะต้องมีการทบทวนเรื่องการให้การบ้านจะต้องมีประสิทธิภาพอย่างแท้จริง

“ทั้งหมดนี้ จะเริ่มดำเนินการทันทีในปีการศึกษา 2556 ระหว่างนี้ สพฐ.กำลังจัดทำคู่มือสำหรับแจกครู เพื่อแนะนำการจัดการเรียนการสอนแบบบูรณาการครบวงจร ตั้งการวางแผนการสอน การจัดการเรียนการสอนในห้องเรียน การประเมินผลและการให้การบ้าน และจะมีการจัดอบรมครูให้เข้าใจเรื่องนี้ในเดือนปิดภาคเรียนเดือนเมษายนด้วย”นายชินภัทร กล่าว

ที่มา: http://www.naewna.com

http://www.moe.go.th/moe/th/news/detail.php?NewsID=31982&Key=hotnews

Leave a Comment