สภาการศึกษา ขับเคลื่อนกรอบคุณวุฒิแห่งชาติสู่ประชาคมอาเซียน

24 กรกฎาคม 2556

ขยับขับเคลื่อนมาระยะหนึ่งแล้วสำหรับเรื่องของคุณวุฒิวิชาชีพจนขยับต่อยอดมาสู่กรอบคุณวุฒิแห่งชาติ (National Qualifications Framework-NQF) และจะ เชื่อมโยงกับกรอบคุณวุฒิอาเซียน เพื่อพัฒนากำลังคนเข้าสู่ประชาคมอาเซียนและ ร่วมกันยกระดับการแข่งขันของภูมิภาค

สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา (สกศ.) ในฐานะหน่วยงานที่มีภารกิจพัฒนาคุณภาพการศึกษาของชาติ ได้เล็งเห็นความสำคัญในเรื่องนี้จึงได้จัดประชุมนานาชาติ “การยกระดับกรอบคุณวุฒิแห่งชาติสู่ประชาคมอาเซียน” ขึ้นระหว่างวันที่ 23-24 มิถุนายนที่ผ่านมา ณ โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ และบางกอกคอนเวนชั่นเซ็นเตอร์ เซ็นทรัลเวิลด์ กรุงเทพฯ เพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจ และตระหนักถึง ความสำคัญของกรอบคุณวุฒิแห่งชาติและกรอบคุณวุฒิอาเซียน รวมถึงการแลกเปลี่ยนเรียนรู้สถานการณ์และหาแนวทางพัฒนากรอบคุณวุฒิแห่งชาติของประเทศในภูมิภาคอาเซียนที่เชื่อมโยงและสอดคล้องกับกรอบคุณวุฒิอาเซียน

Mr. Richard Thornton รองผู้อำนวยการองค์กรคุณวุฒิของนิวซีแลนด์กล่าวในการบรรยายเรื่อง “การยกระดับกรอบคุณวุฒิแห่งชาติสู่การเป็นประชาคมอาเซียน” ว่า กรอบคุณวุฒิแห่งชาติ (NQF) มีความสำคัญอย่างมาก เพราะเป็นเกณฑ์ในการประกันคุณภาพ สร้างความโปร่งใสและความมั่นใจแก่ผู้เรียน สถาบันการศึกษา นายจ้าง หรือผู้ที่เกี่ยวข้องในการผลิตหรือรับบุคคลเข้าเรียนหรือเข้าทำงาน โดยพิจารณาจากผลลัพธ์การเรียนรู้ (Learning Outcomes) ของบุคคล และยังเป็นกลไกที่ก่อให้เกิดการเรียนรู้ตลอดชีวิต (Life Long Learning) อีกด้วย

Ms. Peggy Wong ผู้แทนจากสำนักงานเลขานุการกรอบคุณวุฒิแห่งฮ่องกง กล่าวว่า ฮ่องกงได้ริเริ่มพัฒนากรอบคุณวุฒิแห่งชาติเพื่อใช้เป็น ส่วนหนึ่งของการประกันคุณภาพ และเพิ่มคุณภาพและความสามารถในการแข่งขันของกำลังแรงงาน ซึ่งกรอบคุณวุฒิแห่งชาติของฮ่องกงแต่ละคุณวุฒิ มีมาตรฐานที่แตกต่างกัน โดยมีการประกันคุณภาพ คุณวุฒิและหลักสูตรการ เรียนรู้ที่เกี่ยวข้องกับภาคอุตสาหกรรม โดยแบ่งออกเป็น 7 ระดับ ระดับที่ 1 เป็นระดับต่ำสุด ระดับที่ 7 เป็นระดับสูงสุด ปัจจุบันฮ่องกงมีข้อมูลคุณวุฒิ การศึกษาที่ได้รับการยอมรับตามกรอบคุณวุฒิ แห่งชาติของฮ่องกงที่ขึ้นบนเว็บไซต์มากกว่า 7,300 คุณวุฒิ มีคุณวุฒิที่เกี่ยวข้องกับการศึกษาประมาณ 200 คุณวุฒิ และที่ฮ่องกงจะทำต่อไปคือพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของกรอบคุณวุฒิ เช่น การสะสมความรู้และประสบการณ์ การรับรองคุณวุฒิ และส่งเสริมความร่วมมือของภาคอุตสาหกรรม พัฒนาหลักสูตรมาตรฐานที่พึงประสงค์ และเปิดโอกาสให้ภาคอุตสาหกรรมเป็นผู้นำในการพัฒนาหลักสูตรและส่งเสริมให้มีส่วนร่วมในการพัฒนา กรอบคุณวุฒิด้วย

Dr. Megawati Santoso รองประธานกรรมการคณะทำงานกรอบคุณวุฒิอาเซียนของอินโดนีเซีย ได้ให้ความเห็นว่า กรอบคุณวุฒิอาเซียน เป็นกรอบข้อตกลงในเรื่องของหลักประกันคุณภาพ เป็นหลักเกณฑ์ที่จะสร้างความเชื่อมั่นในการพิจารณาคุณวุฒิของชาติที่จะนำไปสู่เกณฑ์พิจารณาในระดับภูมิภาค และยังเป็นเกณฑ์เปรียบเทียบคุณวุฒิของประเทศสมาชิกประชาคมอาเซียน สำหรับคุณลักษณะและความรู้ภายใต้กรอบคุณวุฒิอาเซียน มี 8 ระดับคือ เริ่มจากระดับ 8 คือ มีความชำนาญสูงสุด มีอิสระในความคิดและการค้นคว้าองค์ความรู้หรือแนวปฏิบัติใหม่ๆ มีความชำนาญด้านองค์ความรู้หลักที่เป็นพื้นฐานของการค้นคว้า มีความชำนาญ ด้านทฤษฎีและเทคนิคการคิดเชิงวิเคราะห์ มีความชำนาญด้านทฤษฎีและเทคนิคที่กว้างขวางและครอบคลุม รู้ทฤษฎีและเทคนิคที่ดี รู้เทคนิคและ ทฤษฎีบางส่วน มีความรู้ระดับพื้นฐานที่ตั้งอยู่ บนความเป็นจริง มีความรู้พื้นฐานทั่วไป นอกจากนี้ ยังได้กำหนดคุณลักษณะด้านศีลธรรมและจริยธรรม ความรับผิดชอบด้วย

นอกจากนี้ยังมีการบรรยายในหัวข้อ “การแลกเปลี่ยน เรียนรู้ประสบการณ์การพัฒนากรอบคุณวุฒิแห่งชาติ” โดย ดร.ศศิธารา พิชัยชาญณรงค์ เลขาธิการสภาการศึกษา, Mr. Emmet McElhatton , Mr. Anthony Chan Dr. Megawati Santoso

Mr. Emmet McElhatton ผู้เชี่ยวชาญ
กรอบคุณวุฒิของนิวซีแลนด์ กล่าวว่า กรอบคุณวุฒิแห่งชาตินิวซีแลนด์มีมานานกว่า 20 ปีและเป็นประเทศแรกที่เริ่มทำกรอบคุณวุฒิ โดยช่วงแรก มีปัญหาในเรื่องการกำหนดระดับทำให้เกิดความสับสน จึงแก้ปัญหาโดยดึง ภาคอุตสาหกรรมเข้ามามีส่วนร่วมทำกรอบคุณวุฒิ ปัจจุบันมีการนำ NZQF ไปใช้อย่างกว้างขวางและยังเป็นแม่แบบและที่ปรึกษาให้กับประเทศที่กำลังดำเนินการพัฒนากรอบคุณวุฒิแห่งชาติ ล่าสุดร่วมกับออสเตรเลียพัฒนากรอบคุณวุฒิแห่งชาติให้กับประเทศในอาเซียน โดยเลือกประเทศไทยเป็นประเทศนำร่อง โดยเริ่มจากการประเมินความต้องการเพื่อวิเคราะห์ความต้องการในส่วนของภาคอุตสาหกรรม ธุรกิจและบริการ

Mr. Anthony Chan ผู้ประสานงาน โครงการการศึกษาฮ่องกง กล่าวว่า กรอบคุณวุฒิแห่งชาติของฮ่องกงประกาศใช้เมื่อปี 2008 แบ่งระดับคุณวุฒิออกเป็น 7 ระดับ ซึ่งครอบคลุมระบบ การศึกษาสายสามัญ สายอาชีพ และการฝึกอบรมต่างๆ และกำหนดชื่อคุณวุฒิกลางไว้เพื่อให้สถานศึกษาได้กำหนดคุณวุฒิการศึกษาให้สอดคล้องกับชื่อกลางที่กำหนด โดยได้รับความร่วมมือ จากภาคอุตสาหกรรมเข้ามามีส่วนร่วมกำหนดมาตรฐานและสมรรถนะ ซึ่งกรอบคุณวุฒิแห่งชาติของฮ่องกงให้ความสำคัญกับการสะสมประสบการณ์เป็นเกณฑ์สำคัญ

Dr. Megawati Santoso ยังกล่าวถึง กรอบคุณวุฒิแห่งชาติของอินโดนีเซียว่า แบ่งออกเป็น 9 ระดับ โดยมีเป้าหมายเพื่อส่งเสริมให้เกิดการเรียนรู้ตลอดชีวิต สามารถเทียบโอนประสบการณ์ได้ และ ไม่ได้ประเมินเฉพาะด้านความรู้อย่างเดียว แต่จะมีการประเมินในด้านศีลธรรมและจริยธรรมด้วย คาดหวังว่าการพัฒนากรอบคุณวุฒิแห่งชาติจะทำให้นานาชาติยอมรับการจัดการศึกษาของอินโดนีเซีย และเป็น กรอบคุณวุฒิฯที่สามารถใช้เทียบเคียงได้กับ ทุกประเทศเพื่อให้สามารถออกใบประกาศคุณวุฒิ (Joint Degree) ร่วมกันได้

นอกจากนี้ที่ประชุมได้มีข้อเสนอแนะเกี่ยวกับการยกระดับกรอบคุณวุฒิแห่งชาติสู่ประชาคมอาเซียนซึ่งเป็นโครงการความร่วมมือระหว่างประเทศไทย อินโดนีเซียและฮ่องกง โดยได้รับความร่วมมือจาก New Zealand Qualification Authority : NZQA เป็นที่ปรึกษาโครงการ มีขั้นตอนการดำเนินงาน 4 ขั้นตอน คือ กำหนดกลุ่มอุตสาหกรรมที่จะดำเนินการโครงการให้ตรงกัน ระบุตำแหน่งงานในสาขาอาชีพ ที่ตกลงร่วมกัน ระบุสมรรถนะทั้งสมรรถนะแกนกลางสมรรถนะวิชาชีพ และกำหนดลักษณะที่พึงประสงค์

นอกจากนี้ที่ประชุมในส่วนภาคอุตสาหกรรมเห็นตรงกันว่ากรอบคุณวุฒิแห่งชาติมีความสำคัญต่อการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ ช่วยในการพัฒนาและ ยกระดับกำลังคนของภาคอุตสาหกรรมให้มีคุณภาพสูง นำไปสู่การพัฒนาขีดความสามารถของประเทศ แต่การจัดทำกรอบคุณวุฒิแห่งชาติจะต้องกำหนดกลไกการขับเคลื่อนให้ชัดเจน มีหน่วยงานกลาง ทำหน้าที่ทดสอบมาตรฐาน และมีการเทียบเคียงกับ กรอบคุณวุฒิอาเซียน นอกจากนี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะต้องมีบทบาทที่ชัดเจนและจะต้องเป็นที่ยอมรับ ของภาคอุตสาหกรรม

สนใจข้อมูลเพิ่มเติมสามารถติดต่อได้ที่ สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา 99/20 ถนนสุโขทัย เขตดุสิต กรุงเทพ 10300 โทรศัพท์ 0-2241-8284 ต่อ 2413, 2414, 2416, 2471 เว็บไซต์ www.onec.go.th

ที่มา: หนังสือพิมพ์มติชน

http://www.moe.go.th/moe/th/news/detail.php?NewsID=33436&Key=hotnews