สอศ.ฝันเพิ่ม น.ศ.เกษตร 100 % ปี’58 ผุดโรดแมป-ยกเครื่องการสอนทั้งระบบ หลังยอดเรียน’ปวช.-ปวส.’แค่ 2.9 หมื่น

7 พฤศจิกายน 2556

นายชัยพฤกษ์ เสรีรักษ์ เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (กอศ.) เปิดเผยว่า จากสภาวการณ์เด็กเรียนด้านการเกษตรในวิทยาลัยสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) ลดลงอย่างต่อเนื่อง ทำให้ตลอดระยะเวลา 2 ปีที่ผ่านมา สอศ.ได้จัดงบประมาณลงไปปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานภายในวิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยี (วษท.) รวมถึงวิทยาลัยประมง พร้อมทั้ง พัฒนาครูและรับปรุงหลักสูตรต่างๆ ให้ทันสมัยและ เหมาะสม แต่ก็ยังไม่สามารถดึงดูดเด็กเข้าเรียนด้านการเกษตรให้เพิ่มมากขึ้นได้ โดยปัจจุบันมีสัดส่วนนักเรียนที่เรียนใน วษท. 47 แห่ง ในระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) 17,974 คน และระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง (ปวส.) 11,752 คน รวม 29,726 คน และเมื่อเทียบสัดส่วนระหว่างผู้เรียนสาขาด้านการเกษตรกับสาขาอื่นๆ ที่ สอศ.จัดการเรียนการสอนอยู่ พบว่าผู้เรียนสาขาด้านการเกษตรมีสัดส่วนน้อยมาก โดยระดับ ปวช.อยู่ที่ 4:96 และ ปวส.อยู่ที่ 5.6:94.4

เลขาธิการ กอศ.กล่าวต่อว่า ดังนั้น เพื่อเป็นการกระตุ้นและส่งเสริมให้เด็กมาเรียนด้านการเกษตรมากขึ้น สอศ.จึงได้จัดทำแผนยุทธศาสตร์การอาชีวศึกษาเกษตร พ.ศ.2557-2558 ฉบับเร่งด่วนขึ้น โดยมีเป้าหมายคือ เพิ่มผู้เรียนอาชีวศึกษาเกษตรขึ้นเป็น 100% เมื่อเทียบกับปีการศึกษา 2556, จัดการเรียนการสอนในระบบทวิภาคี และหลักสูตรเฉพาะทางเพิ่มขึ้น, จัดทำกรอบคุณวุฒิวิชาชีพและมาตรฐานอาชีพอาชีวศึกษาเกษตรแห่งชาติ เทียบได้กับระดับสากล และให้เกษตรกรในชุมชนได้รับโอกาสในการเข้าถึงการบริการทางวิชาการและวิชาชีพมากขึ้น ทั้งนี้ ในปีการศึกษา 2556 ภาควิชาเกษตรมีนักเรียน ปวช.ชั้นปีที่ 1 จำนวน 4,682 คน และนักศึกษา ปวส.ชั้นปีที่ 1 จำนวน 3,657 คน รวม 8,339 คน ดังนั้น ในปีการศึกษา 2557 ภาพรวมจะต้องเพิ่มขึ้นไม่น้อยกว่า 50% หรือ 12,509 คน และปีการศึกษา 2558 ต้องเพิ่มขึ้นเป็น 100% หรือ 16,678 คน

“หลังจากนี้จะมีการปฏิรูปการเรียนการสอนด้านการเกษตร โดยให้เด็กได้เรียนรู้จากโครงงานเป็นหลัก เพื่อให้เกิดการคิดวิเคราะห์ และจะนำเทคโนโลยีสมัยใหม่เข้ามาใช้ในการเรียนการสอน รวมทั้งประสานกับสถานประกอบการ เพื่อให้เด็กได้เข้าไปฝึกปฏิบัติงาน เมื่อจบแล้วเด็กจะสามารถเลือกได้ว่าจะไปทำงานในสถานประกอบการ หรือจะไปประกอบอาชีพของตนเอง และในปีนี้จะมอบให้ วษท.จัดทำโครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืช ตามพระราชดำริสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี โดยให้ วษท.แต่ละแห่งระบุชนิดของพืชที่จะทำการอนุรักษ์ ซึ่งเป็นพื้นที่ของตนเอง ขณะเดียวกันก็จะมีการจัดหน่วยเคลื่อนที่อบรมวิชาชีพเกษตรระยะสั้นให้แก่เกษตรกรในชุมชนต่างๆ ด้วย” เลขาธิการ กอศ.กล่าว

ที่มา: หนังสือพิมพ์มติชน

http://www.moe.go.th/moe/th/news/detail.php?NewsID=34708&Key=hotnews