ส่งเสริมเรียนรู้ภาษาจีนต่อกรกับโลกยุคใหม่

27 สิงหาคม 2556

จากประชากร 6,000 ล้านคนทั่วโลก มีคนที่พูดภาษาจีนมากถึง 1,050 ล้านคนเลยทีเดียว ประเทศจีนมีประชากรและมีบทบาทในสังคมโลก ทั้งในแง่การเติบโตและการแข่งขันทางเศรษฐกิจ ภาษาจีนกลางจึงกลายเป็นภาษาที่ทรงอิทธิพลภาษาหนึ่งของโลก กระทรวงศึกษาธิการของจีนสำรวจความสนใจของคนทั่วโลก พบว่ามีคนต่างชาติสนใจจะเรียนภาษาจีนกลางมากถึง 100 ล้านคนในปี 2015

เพื่อให้เยาวชนไทยก่อเกิดการเรียนรู้ และสร้างรากฐานความได้เปรียบทางภาษาพร้อมรับการแข่งขัน บริษัท นานมี จำกัด จัดโครงการประกวดทักษะภาษาจีนนานมี ครั้งที่ 3 ชิงถ้วยพระราชทาน สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี โดยเด็กไทยจะได้พัฒนาความรู้ทางด้านภาษาจีนอย่างรอบด้าน และเชื่อมความสัมพันธ์ ไทย-จีน ซึ่งเป็นมิตรประเทศกันมายาวนาน

คุณหญิงอารยา พิบูลนครินทร์ ราชเลขานุการในพระองค์สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี กล่าวว่า สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงตรัสว่า พระองค์ทรงศึกษาภาษาจีนมากว่า 30 ปี ตั้งแต่ทรงพระเยาว์ ทั้งประวัติศาสตร์จีน วรรณคดีหรือพงศาวดารจีนที่มีผู้แปลเป็นภาษาไทย เพราะการอ่านวรรณคดีหรือพงศาวดาร นอกจากจะทำให้มีความรู้แตกฉานในภาษาแล้ว ยังช่วยให้รอบรู้ปัญหาชีวิตและเข้าใจโลกได้ดี นอกจากนี้ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงรักใคร่และผูกพันกับประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีนเป็นอย่างมาก โดยเสด็จฯ เยือนจีนมาแล้วถึง 34 ครั้ง ตั้งแต่ปี 2524 อีกทั้งยังทรงศึกษาภาษาจีน ตลอดจนศิลปวัฒนธรรมจีน อย่างลึกซึ้งถึงแก่น จนได้รับพระสมัญญานามจากประเทศจีนให้ทรงเป็น “ทูตสันถวไมตรีไทย-จีน” โดยประชาชนชาวจีนเทิดทูนและยกย่องพระองค์ให้ทรงเป็นหนึ่งใน “มิตรที่ดีที่สุดในโลก” สื่อจีนกล่าวขวัญถึงพระองค์ว่า “เจ้าหญิง “ผู้ทรงรอบรู้เรื่องจีน” ทั้งได้ทรงพระราชนิพนธ์แปลวรรณกรรมจีนต่อเนื่องเป็นเวลาหลายปี

ปรีญาณี สุพุทธิพงศ์ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท นานมี จำกัด เปิดเผยว่า จัดโครงการนี้อย่างต่อเนื่องทุกปี เพื่อส่งเสริมและพัฒนาทักษะทางภาษาจีนแก่เยาวชนไทย ตั้งแต่ระดับชั้นประถมศึกษา มัธยมศึกษา และอุดมศึกษา ซึ่งในปีนี้มีนักเรียนนักศึกษาเข้าร่วมการประกวดกว่า 210 ทีม กว่า 500 คน จากสถาบันการศึกษาทั่วประเทศ ซึ่งเชื่อว่าจะสร้างให้เด็กไทยมีความสามารถในการแข่งขัน มีพลังในการก้าวทันโลกอย่างทัดเทียมและรวดเร็ว ขณะเดียวกันก็ไม่ลืมเรื่องคุณธรรมและจริยธรรม อาทิ ความกตัญญู ความเรียบง่าย ซึ่งสอดแทรกอยู่ในภาษา ปรัชญา โคลงกลอน นิทาน และบทเพลงของวัฒนธรรมจีน เพื่อเป็นแนวทางในการดำเนินชีวิตให้ประสบความสำเร็จอย่างเป็นสุข

ด.ช.ชินธันย์ หลู หรือน้องนีโอ อายุ 8 ขวบ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 จาก โรงเรียนนานาชาติไทยสิงคโปร์ ผู้ชนะการประกวดรับรางวัลยอดเยี่ยมระดับชั้นประถมต้น ได้รับถ้วยพระราชทานฯ เล่าว่า ได้เลือกท่องกลอนภาษาจีน ซึ่งเป็นเรื่องราวของความรักที่แม่มีต่อลูก เป็นบทกลอนที่ไพเราะและมีความหมายเตือนใจ ให้ลูกทุกคนนึกถึงความรักที่แม่มีให้ลูกเสมอ และหาทางตอบแทนบุญคุณ แสดงความกตัญญูเพื่อให้แม่มีความสุข การเตรียมตัวก่อนมาประกวดใช้เวลาพอสมควรในการทำความเข้าใจความหมายอย่างถ่องแท้ เพื่อให้การอ่านเป็นไปได้อย่างมีอารมณ์และความรู้สึก มีการเว้นจังหวะและออกเสียงสูงต่ำ เพื่อสร้างให้ผู้ฟังเกิดความสนใจ สิ่งที่อยากฝากไว้ในการเรียนภาษาจีนคือต้องขยัน หมั่นฝึกฝนออกเสียงอยู่เสมอ จะทำให้การเรียนภาษาจีนง่ายขึ้น

ด.ญ.พรปวีณ์ ฐิติชัยวรภัทร หรือน้องลิลลี่ อายุ 11 ปี ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 จากโรงเรียนประชาวิทย์ จ.ลำปาง ผู้ชนะรางวัลยอดเยี่ยมระดับประถมศึกษาตอนปลาย เล่าว่า เรียนภาษาจีนตั้งแต่ชั้นอนุบาล วันนี้เลือกการแสดงเล่านิทานจีน ซึ่งแม้จะเป็นนิทาน แต่ความยากอยู่ที่การถ่ายทอดอารมณ์ความรู้สึกด้วยน้ำเสียงและท่าทาง นิทานจีนมักสอดแทรกข้อคิดและคติเตือนใจ ทำให้ผู้เล่าและผู้ฟังได้แง่มุมที่เป็นประโยชน์นำไปใช้ในชีวิตประจำวันด้วย สำหรับการเรียนภาษาจีนของคนไทยถือว่าได้เปรียบ เพราะภาษาจีนมีความคล้ายคลึงกับภาษาไทยที่มีวรรณยุกต์ และรูปประโยค ส่วนเคล็ดลับการเรียนภาษาจีนให้ได้ผลดี คือควรฝึกฝนกับเรื่องราวในชีวิตประจำวัน พูดกับคนรอบข้าง อ่านหนังสือ ฟังเพลงจีน และดูโทรทัศน์ช่องภาษาจีน จะทำให้เรียนรู้ภาษาจีนได้เร็วขึ้น หากโตขึ้นมั่นใจว่าจะได้ใช้ภาษาจีนแน่นอน เพราะที่บ้านเป็นโรงงานผลิตเซรามิกอยู่ที่ลำปาง ซึ่งต้องมีการค้าขายกับจีนและคนทั่วโลก จึงอยากนำความรู้ด้านภาษาจีนไปช่วยธุรกิจของที่บ้าน

โลกที่หมุนเร็วเพราะมีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา จึงควรพัฒนาตัวเองอยู่เสมอ โดยเฉพาะด้านภาษาเพื่อใช้ในการติดต่อสื่อสาร เพิ่มโอกาสในการแข่งขัน และยังสามารถเรียนรู้ชีวิตความเป็นอยู่ วัฒนธรรมอันดีงามระหว่างกันด้วย

ที่มา: หนังสือพิมพ์บ้านเมือง

http://www.moe.go.th/moe/th/news/detail.php?NewsID=33874&Key=hotnews