เคาะ’ร.ร.-อาชีวะ’เปิดเทอม 16 พ.ค. ศธ.ชี้เด็กมีเวลา 4 เดือนอ่านตำราสอบเข้าม. รับ’น.ศ.ครู’กระทบ-ไร้เวลาเตรียมฝึกสอน

10 ตุลาคม 2556

เมื่อวันที่ 9 ตุลาคม นายจาตุรนต์ ฉายแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยภายหลังการประชุมร่วมกับผู้บริหาร ศธ. ว่าที่ประชุมได้หารือเรื่องการเลื่อนเปิด-ปิดภาคเรียนของสถานศึกษาในสังกัด ศธ. โดยที่ประชุมได้นำข้อดีและข้อเสียของการเลื่อนเปิดเทอมจาก 16 พฤษภาคม เป็น 10 มิถุนายน และการเปิดเทอมเป็นวันที่ 16 พฤษภาคมเหมือนเดิม รวมถึงนำผลการสำรวจความคิดเห็นของผู้ที่เกี่ยวข้องในวงการศึกษา อาทิ นักเรียน ผู้ปกครอง ครู และผู้บริหารสถานศึกษา จำนวน 15,696 คน เกี่ยวกับการเลื่อนเปิดเทอม ที่ระบุว่า 54.54% เห็นด้วยกับการเปิดเทอมวันที่ 16 พฤษภาคมมาพิจารณาด้วย ซึ่งที่ประชุมได้ข้อสรุปร่วมกันว่าการเปิดเทอมวันที่ 16 พฤษภาคม จะมีข้อดีมากกว่าการเลื่อนไปเปิดเทอมวันที่ 10 มิถุนายน เพราะเมื่อคำนึงถึงการเรียนการสอนของนักเรียนส่วนใหญ่ตั้งแต่ชั้น ป.1-ม.5 จะพบว่ามีความสอดคล้องในแง่ของภูมิอากาศ และประเพณีไทย ซึ่งหากต้องเลื่อนเปิดเทอม จะทำให้เกิดผลกระทบกับสิ่งเหล่านี้ ดังนั้นสถานศึกษาในสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) และสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) จะเปิดเทอมในวันที่ 16 พฤษภาคมเหมือนเดิม
รัฐมนตรีว่าการ ศธ. กล่าวต่อว่า การให้เปิดภาคเรียนเหมือนเดิม ไม่ต้องแก้ไขกฎระเบียบที่เกี่ยวข้อง และจะไม่กระทบต่อการขอรับเงินอุดหนุนรายหัว เพราะใช้ฐานข้อมูลนักเรียนวันที่ 10 มิถุนายน ขณะเดียวกันทาง สอศ. ยังเห็นว่าเด็กอาชีวะมีความเชื่อมโยงกับมหาวิทยาลัยน้อย และการเปิดเทอมวันที่ 16 พฤษภาคม จะสอดคล้องกับความต้องการของตลาดที่กำลังหาแรงงานมากกว่าด้วย ส่วนเด็ก ม.6 แม้ว่าการเปิดเทอมช่วงเวลาเดิม จะมีผลให้เด็กมีช่วงเวลาว่าง ค่อนข้างมากประมาณ 4 เดือนครึ่ง ก่อนที่มหาวิทยาลัยจะเปิดเทอมในช่วงกลางเดือนสิงหาคมนั้น ที่ประชุมได้พิจารณาแล้วเห็นว่าไม่น่าจะเป็นปัญหาแต่จะเป็นโอกาสดี เพราะในบางประเทศจะใช้ช่วงเวลานี้สำหรับเรียนภาษา เพิ่มเติมหรือเรียนเพื่อเตรียมความพร้อมเข้ามหาวิทยาลัย

นายจาตุรนต์กล่าวด้วยว่า สำหรับประเทศไทยเป็นโอกาสดีที่จะทำให้มหาวิทยาลัยสามารถจัดระบบการรับบุคคลเข้าศึกษาต่อในมหาวิทยาลัย ซึ่งได้ขอความร่วมมือให้มหาวิทยาลัยเลื่อนการสอบรับตรงของมหาวิทยาลัยมาอยู่ในช่วงที่นักเรียนได้เรียนจบการศึกษาแล้ว เพื่อให้เด็กได้มีเวลาเตรียมตัว อย่างไรก็ตาม ในส่วนของสถาบันทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ (สทศ.) ก็เห็นด้วยว่าการจัดสอบต่างๆ ของ สทศ.ควรจัดสอบหลังนักเรียนจบการศึกษาเช่นกัน ซึ่ง สทศ.ก็ยินดีที่จะพิจารณาขยับช่วงเวลาในการสอบให้สอดคล้องกับช่วงเวลาปิดภาคเรียนที่ 2 ที่จะมีช่วงเวลาที่นักเรียนหยุดเรียนนานขึ้นด้วย

“ความจริงแล้วการเลื่อนเปิด-ปิดภาคเรียนในระดับประถมศึกษาและมัธยมศึกษาของกลุ่มประเทศอาเซียน ไม่ได้มีการเปิด-ปิดพร้อมกัน ซึ่งการเปิด-ปิดแบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม คือ

1.เปิดช่วงเดือนมกราคม

2.ช่วงเดือนมิถุนายนกรกฎาคม และ

3.ช่วงเดือนกันยายน-ตุลาคม

ซึ่งถือว่ามีความแตกต่างกันมาก ดังนั้น การที่ประเทศไทยจะเลื่อนเวลา เพื่อให้สอดคล้องกับกับกลุ่มประเทศอาเซียนจึงไม่ใช่ประเด็น” นายจาตุรนต์กล่าว และว่า ส่วนกรณีที่ห่วงว่าหากให้เปิดเทอมในวันที่ 16 พฤษภาคมเช่นเดิมแล้ว จะมีผลกระทบกับนักศึกษาฝึกสอนคณะครุศาสตร์/ศึกษาศาสตร์ที่จะไม่มีเวลาเตรียมตัวล่วงหน้าก่อนการฝึกสอนนั้น ได้มีการนำมาพูดคุยกันและเห็นว่าเป็นเพียงปัญหาข้อเดียว ฉะนั้นคงจะต้องหาวิธีแก้ไขปัญหากันต่อไป

ที่มา: หนังสือพิมพ์มติชน

http://www.moe.go.th/moe/th/news/detail.php?NewsID=34410&Key=hotnews