4 กันยายน 2556
“หมอวิจารณ์” ชี้อาชีวะต้องปรับใหญ่ทั้งเชิงโครงสร้างและเชิงวัฒนธรรม หากหวังจะกระตุ้นให้เด็กหันมาเรียนมากขึ้น แนะหาเวทีให้เด็กอาชีวะปล่อยพลังที่มีเหลือเฟือในทางสร้างสรรค์ เปลี่ยนจากเกเรไปเป็นการใช้แรงทำประโยชน์ให้สังคม
วานนี้ (3 ก.ย.) ที่โรงแรมมิราเคิล แกรนด์ กรุงเทพฯ สำนักงานส่งเสริมสังคมแห่งการเรียนรู้และคุณภาพเยาวชน(สสค.) ได้จัดเสวนาวิชาการ “เวทีปฏิรูปการเรียนรู้สู่การศึกษาเพื่อคนทั้งมวล ครั้งที่ 20” ในหัวข้อ อาชีวศึกษา..สร้างคน…พัฒนาชาติ ซึ่ง ศ.นพ.วิจารณ์ พานิช กล่าวในการเสวนาว่า การจัดหลักสูตรทวิภาคีที่สถานศึกษาร่วมมือกับสถานประกอบการคือการทำให้ผู้เรียนได้เกิดการเรียนรู้ทฤษฎีจากการปฏิบัติจริง แต่ก็ต้องไม่ลืมการพัฒนาทักษะที่จำเป็นสำหรับศตวรรษที่ 21 ด้วย โดยเฉพาะทักษะชีวิตด้านต่างๆ อาทิ การสื่อสารที่มักวิจารณ์กันว่าคนเป็นช่างมักจะพูดกับคนอื่นไม่ค่อยเป็น รวมทั้งทักษะของการร่วมมือ และการทำงานเป็นทีมด้วย นอกจากนี้ในส่วนของครูอาชีวะก็ต้องมีการฝึกฝนและส่งเสริมให้ได้เรียนรู้ตลอดชีวิตด้วยเช่นกัน ทั้งนี้ตนอยากย้ำว่าเส้นทางการเติบโตของครูนั้น เราต้องไม่ให้คุณค่าครูที่สอนระดับปริญญาสูงกว่าครูที่สอนปวช.หรือปวส. แต่ควรให้ตามความสามารถในการฝึกฝนผู้เรียน เหมือนกับการเป็นโค้ชให้เด็ก หากใครเป็นโค้ชที่เก่ง และอธิบายได้ก็ยกย่องให้ไปเลย ซึ่งผู้สอนทั้งระดับมหาวิทยาลัย ประถมหรือมัธยมก็ควรใช้วิธีนี้ด้วยเช่นกัน
“การจะสร้างค่านิยมให้เด็กหันมาสนใจเรียนอาชีวะมากขึ้นนั้น อาชีวะของไทยต้องการเปลี่ยนแปลงทั้งเชิงโครงสร้างและเชิงวัฒนธรรม ต้องทำให้ทั้งครูและนักเรียนรู้สึกภาคภูมิใจในตนเอง ซึ่งการที่เด็กอาชีวะยังมีภาพของนักเลงเพราะมีพลังเยอะ เราจึงต้องหาทางให้เด็กอาชีวะได้มีเวทีปล่อยพลังในทางสร้างสรรค์ ซึ่งจะทำให้เด็กรู้สึกภาคภูมิใจ และเปลี่ยนจากเกเรมาเป็นการใช้พลังทำประโยชน์ให้แก่สังคม” ศ.นพ.วิจารณ์ กล่าว
ดร.ชิงชัย หาญเจนลักษณ์ ประธานกรรมการร่วมสภาธุรกิจไทย-สหภาพยุโรป กล่าวว่า อาชีวศึกษาของไทยควรได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐมากกว่านี้ เพราะที่ผ่านมาเด็กอาชีวะที่จบออกมาเมื่อเข้าสู่การทำงานยังไม่สามารถทำงานได้ทันที ทางสถานประกอบการยังต้องจัดฝึกอบรมเพิ่มเติมให้ ดังนั้นหลายแห่งจึงหันไปจ้างเด็กที่จบมัธยมแทน เพราะถึงอย่างไรก็ต้องฝึกอบรมให้ใหม่เหมือนกัน แต่ค่าจ้างเด็กมัธยมจะถูกกว่า
ที่มา: http://www.dailynews.co.th
http://www.moe.go.th/moe/th/news/detail.php?NewsID=33980&Key=hotnews