แนะ นศ.พัฒนาตนเองมองไกลกว่าอาเซียนพร้อมทำงานกับต่างชาติ

13 สิงหาคม 2556

นายผ่านพบ ปลั่งประยูร ผู้อำนวยการกองเศรษฐกิจ กรมอาเซียน กระทรวงการต่างประเทศ (กต.) กล่าวถึงการเคลื่อนย้ายนิสิตนักศึกษาจากการเข้าสู่ประชาคมอาเซียนในปี 2558 ในงานเปิดโครงการค่ายอาเซียนของสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) จัดที่คณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เมื่อเร็วๆ นี้ ว่า อยากให้นิสิตนักศึกษาและคนไทยทั่วไปตระหนักว่า ไทยได้ร่วมมือกับประเทศในกลุ่มอาเซียนมาหลายปี อาทิ การเปิดเสรีทางการค้า รวมทั้งการทำเอฟทีเอ กับประเทศอื่นนอกจากอาเซียน จึงทำให้เกิดการแข่งขันสูง และเป็นการผูกมัดให้ประเทศไทยต้องเร่งพัฒนาตนเอง เมื่อรวมเข้าประชาคมอาเซียน การแข่งขันก็จะสูงมากขึ้น ทั้งการเคลื่อนย้ายแรงงาน ก็จะคล่องตัวมากขึ้น โดยกำหนดไว้ 7 อาชีพ ได้แก่ แพทย์ พยาบาล สถาปนิก ทันตแพทย์ บัญชี การธนาคารและบริการ ซึ่งจะต้องขยายอาชีพอื่นๆ ออกไปอีก นิสิตนักศึกษาควรมองให้ไกลกว่าอาเซียน เพราะขอบเขตการลงทุนและความต้องการบุคลากร ในประเทศอาเซียน จะเป็นธุรกิจข้ามชาตินอกเหนือจาก 10 ประเทศจากอาเซียน โดยมาจากทวีปยุโรป อเมริกา ออสเตรเลีย จีน ญี่ปุ่น บัณฑิตไทยอาจต้องเรียนรู้ทั้งภาษาอังกฤษ ภาษาอาเซียน จีน ญี่ปุ่น เป็นต้น ทั้งนี้การส่งเสริมการศึกษาให้นิสิต นักศึกษา ต้องเริ่มจากเปิดโอกาสให้เด็กไทยได้เรียนจากประสบการณ์จริงจากการเดินทางไปต่างประเทศให้เห็นบ้านเมืองเขาด้วยตนเอง ไม่ใช่อ่านหนังสือเท่านั้น การแลกเปลี่ยนนิสิตนักศึกษามากกว่า 1 เทอม ไปในประเทศต่างๆ ประเทศละ 1 เทอม เพราะในอนาคตหากเราจะลงทุนในประเทศนั้น ต้องมีเพื่อน มีเครือข่าย และยังต้องเคยเดินทางไปประเทศนั้นๆ ก่อน

“การเข้าสู่ประชาคมอาเซียนปี 2558 จะเป็นจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลง เราต้องสร้างคนของเราให้มีความพร้อมที่จะเรียนรู้ เข้าใจความเปลี่ยนแปลงของโลก พร้อมทำงานกับต่างชาติซึ่งมีความหลากหลายทางวัฒนธรรมและทำงานเป็นทีมเป็น อย่างไรก็ตามจากผลสำรวจของมหาวิทยาลัยแห่งชาติสิงคโปร์ พบว่า ปัญหาทรัพยากรมนุษย์ ยังเป็นปัญหาหลักสำคัญที่สุดของอาเซียน”

–คมชัดลึก ฉบับวันที่ 14 ส.ค. 2556 (กรอบบ่าย)-

http://www.moe.go.th/moe/th/news/detail.php?NewsID=33680&Key=hotnews