2 เมษายน 2556
นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา รมว.ศึกษาธิการ เปิดเผยว่า จากการประชุมสภาการศึกษา เมื่อเร็ว ๆ นี้ ที่ประชุมได้เห็นชอบแนวทางการขับเคลื่อนกรอบและทิศทางการวิจัยทางการศึกษาของประเทศ พ.ศ. 2555-2558 สู่การปฏิบัติ ใน 3 ประเด็น ได้แก่
1. ให้มีการประสานความร่วมมือและจัดทำบันทึกข้อตกลงความร่วมมือกับสำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ บรรจุกรอบและทิศทางการวิจัยทางการศึกษาของประเทศ พ.ศ. 2555-2558 เข้าเป็นส่วนหนึ่งของมาตรการดำเนินงานตามนโยบายและยุทธศาสตร์การวิจัยของชาติ ฉบับที่ 8 พ.ศ. 2555-2559 และยึดเป็นกรอบในการพิจารณาส่งเสริม สนับสนุน และจัดสรรงบประมาณดำเนินการวิจัยของหน่วยงานทางการศึกษาทุกระดับและประเภทการศึกษา
2. ให้สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษาเป็นหน่วยประสานงานเพื่อสร้างความเชื่อมโยง ของหน่วยงานที่มีภารกิจด้านการวิจัยทางการศึกษา และ
3.ให้สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา เป็นหน่วยงานในการสร้างกลไกและช่องทางเผยแพร่ทุกรูปแบบ เพื่อส่งเสริม สนับสนุนให้มีการนำผลวิจัยไปใช้ประโยชน์ในการพัฒนาการศึกษาต่อไป
รมว.ศึกษาธิการ กล่าวต่อไปว่า นอกจากนี้ที่ประชุมยังได้เห็นชอบ ร่างแผนการศึกษาแห่งชาติ ฉบับปรับปรุง ครั้งที่ 2 พ.ศ.2556-2559 ซึ่งผ่านการรับฟังความคิดเห็นจากทุกภาคส่วนของสังคมแล้ว โดยมีการกำหนดเป้าหมาย ให้คนไทยเป็นคนดี เก่ง มีภูมิคุ้มกัน มีความสุข มีความรู้เชิงวิชาการและสมรรถนะทางวิชาการ มีคุณธรรม จริยธรรม ใฝ่เรียนรู้และแสวงหาความรู้อย่างต่อเนื่อง ดำรงชีวิตตามหลักเศรษฐกิจพอเพียง มีความสำนึกรับผิดชอบทั้งต่อตนเองและสังคม และพร้อมเป็นประชาคมอาเซียน นอกจากนี้แผนดังกล่าวกำหนดให้ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนในกลุ่มสาระหลักเกินกว่าร้อยละ 50 สถานศึกษาได้รับการรับรองมาตรฐานจากสำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา (สมศ.) มีจำนวนปีการศึกษาเฉลี่ยของคนไทยเพิ่มสูงขึ้นจาก 9.1 ปี ในปี 2555 เป็น 12 ปี ในปี 2559 รวมถึงภาคเอกชนเข้าร่วมจัดการศึกษาเพิ่มขึ้น และมีสัดส่วนผู้เรียนสายอาชีวศึกษาเพิ่มขึ้นเป็น 50 : 50 ในปี 2559.
ที่มา: หนังสือพิมพ์เดลินิวส์
http://www.moe.go.th/moe/th/news/detail.php?NewsID=32317&Key=hotnews

