16 กันยายน 2556
สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา(สกศ.) ได้รับมอบหมายงานใหญ่ จากคณะรัฐมนตรี (ครม.) ให้นำกรอบคุณวุฒิแห่งชาติ (National Qualifications Framework NQF) ซึ่งได้รับความเห็นชอบตั้งแต่ช่วงต้นปี 2556 มาขับเคลื่อน และสร้างความเข้าใจพร้อม วางระบบรองรับก่อนจะนำมาใช้จริง ขณะเดียวกัน ประชาคมอาเซียนก็กำลังจะมาถึงในปี 2558 สกศ.จึงมีภารกิจเพิ่มขึ้นในการยกระดับ กรอบคุณวุฒิแห่งชาติของไทยให้เทียบเคียงกับ กรอบคุณวุฒิอาเซียน (ASEAN Qualifications Framework) ด้วย เพื่อเอื้อต่อการเคลื่อนย้ายแรงงานผู้เรียนระหว่าง 10 ประเทศในอาเซียนได้
เพราะฉะนั้น เมื่อช่วงปลายเดือน มิ.ย.ที่ผ่านมา สกศ.จึงใช้โอกาสในการจัดประชุมสัมมนาทางวิชาการระหว่างประเทศ “การศึกษาเพื่ออนาคตประเทศไทย” ที่กรุงเทพฯ หยิบยกเรื่อง กรอบคุณวุฒิแห่งชาติ มาเป็นหัวข้อสำคัญในการ แลกเปลี่ยนเรียนรู้ประสบการณ์ระหว่างผู้เชี่ยวชาญ ด้านกรอบคุณวุฒิแห่งชาติจากประเทศภูมิภาคอาเซียน และจากประเทศต้นแบบที่พัฒนา กรอบคุณวุฒิได้สำเร็จแล้ว พร้อมจัดทำรายละเอียด ของกรอบคุณวุฒิของกลุ่มอุตสาหกรรม
ดร. ศศิธารา พิชัยชาญณรงค์เลขาธิการ สภาการศึกษา กล่าวว่า สกศ. ได้กำหนดกลุ่มอาชีพ กลุ่มธุรกิจ อุตสาหกรรม และบริการที่สำคัญ เพื่อจัดทำกรอบคุณวุฒิแห่งชาติ จำนวน 18 กลุ่มอาชีพ อย่างไรก็ตาม ก่อนนำกรอบคุณวุฒิแห่งชาติมาใช้จริง จำเป็นต้องมีการวางระบบรองรับและต้องสร้างความร่วมมือกับต่างประเทศเพื่อยกระดับกรอบคุณวุฒิ สู่อาเซียนและประชาคมโลก เพราะฉะนั้น สกศ. จึงเชิญผู้เชี่ยวชาญจากประเทศนิวซีแลนด์ซึ่งเป็น ต้นแบบของระบบคุณวุฒิวิชาชีพ เริ่มพัฒนากรอบคุณวุฒิ แห่งชาติตั้งแต่ปี ค.ศ.1992 มาถ่ายทอดองค์ความรู้พร้อมเชิญผู้เชี่ยวชาญจากประเทศฮ่องกง และอินโดนีเซีย ซึ่งกำลังพัฒนากรอบคุณวุฒิแห่งชาติ มาร่วมแลกเปลี่ยนประสบการณ์ซึ่งได้นำไปสู่ความร่วมมือระหว่างประเทศไทย ฮ่องกงและอินโดนีเซียในการนำร่องกรอบคุณวุฒิแห่งชาติ โดย สกศ. ได้ร่วมมือกับประเทศฮ่องกง นำร่องระบบคุณวุฒิแห่งชาติ ในกลุ่มอาชีพการบริหารสินทรัพย์ และร่วมมือ กับประเทศอินโดนีเซียนำร่องกลุ่มอาชีพประมง
“อินโดนีเซียได้จัดทำกรอบคุณวุฒิเสร็จเรียบร้อยแล้ว โดยแบ่งระดับคุณวุฒิเป็น 9 ระดับ และจะนำไปใช้เทียบเคียงกับกรอบคุณวุฒิอาเซียนด้วย ทั้งนี้รัฐบาลอินโดนีเซียให้ความสำคัญกับกรอบคุณวุฒิมาก เพราะมี ประชากรมากและทุกคนไม่สามารถเข้าถึงระบบการศึกษา ในระบบได้ ส่วนฮ่องกงได้ตั้งหน่วยงานที่ รับผิดชอบเรื่องกรอบคุณวุฒิเป็นการเฉพาะ เพราะที่ฮ่องกงมีผู้ที่เรียนจบจากสายอาชีพมากกว่าผู้ที่จบปริญญา แต่ผู้ที่จบสายอาชีพกลับไม่ได้รับการยอมรับเท่าผู้ที่ จบปริญญา ฮ่องกงจึงพยายามดึงภาคเอกชนและภาคอุตสาหกรรม เข้ามาช่วยผลักดันระบบคุณวุฒิวิชาชีพ”
สกศ.ยังได้ร่วมมือกับ ASEAN-AUSTRALIA-NEW ZEALAND FREE TRADE AREA (AANZFTA)ภายใต้คณะทำงานกรอบคุณวุฒิอาเซียน ทำหน้าที่พัฒนากรอบคุณวุฒิอาเซียน มีการจัดประชุม คณะทำงานทุก 6 เดือน การประชุมครั้งถัดไป จะมีขึ้นระหว่าง วันที่ 6-8 พฤศจิกายน นี้ ที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย ซึ่ง สกศ. ในฐานะผู้แทนประเทศไทยจะนำเสนอผลการดำเนินงาน กรอบคุณวุฒิแห่งชาติ รวมทั้งนำเสนอผลการทดลอง นำร่องกับประเทศฮ่องกงและอินโดนีเซีย ทั้งนี้ การประชุมนัดสุดท้ายของคณะทำงานจะมีขึ้นในเดือนพฤศจิกายน 2557 ซึ่งตั้งเป้าไว้ว่า กรอบคุณวุฒิอาเซียนจะเสร็จสมบูรณ์เพื่อให้สมาชิกอาเซียนพิจารณา
ที่มา: หนังสือพิมพ์คมชัดลึก
http://www.moe.go.th/moe/th/news/detail.php?NewsID=34118&Key=hotnews

