ทปอ.ย้ำมหาวิทยาลัยรับตรง ม.ค.57 ตั้ง ‘กระทรวงอุดมศึกษาและวิจัย’ อิสระ

14 ตุลาคม 2556

13 ต.ค.56 ที่มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง (มฟล.) ศ.ดร.สมคิด เลิศไพฑูรย์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (มธ.) ในฐานะประธานที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทย (ทปอ.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมได้มีการหารือเรื่องระบบการคัดเลือกบุคคลเข้าศึกษาต่อสถาบันอุดมศึกษาในระบบรับตรงของมหาวิทยาลัยต่างๆ โดยที่ประชุมยืนยันมติเดิม และย้ำให้มหาวิทยาลัยต่างๆ จัดสอบระบบรับตรงพร้อมกันในช่วงเดือน ม.ค. ซึ่งขณะนี้ยังเหลือมหาวิทยาลัยอีกประมาณ 95% ที่ยังไม่ได้ดำเนินการจัดสอบรับตรง แต่ทั้งนี้ระบบรับตรงดังกล่าวจะเป็นการรับตรงทั่วไป ไม่รวมถึงระบบโควตา เช่น โครงการพิเศษ ที่สามารถจะดำเนินการจัดสอบได้ตามความเหมาะสม

ส่วนที่หลายฝ่ายต้องการจะให้มีการปรับระบบรับตรงในช่วงปีนี้คงเป็นไปไม่ได้แล้ว รวมทั้งที่ นายจาตุรนต์ ฉายแสง รมว.ศึกษาธิการ อยากให้มหาวิทยาลัยจัดสอบรับตรงภายหลังเด็กจบการศึกษาแล้ว นั้น ทาง ทปอ.เห็นด้วยและเรื่องนี้ก็ได้มีการหารือกันมาตลอด แต่สุดท้ายติดปัญหาทางเทคนิคในการดำเนินการจัดสอบ ถ้าจะให้เลื่อนจัดสอบรับตรงในปีนี้ก็คงไม่ทัน เพราะมหาวิทยาลัยทุกแห่งได้วางแผนการดำเนินการเสร็จเรียบร้อยแล้ว โดยได้ประกาศไปแล้วล่วงหน้าว่ามหาวิทยาลัยจะจัดสอบพร้อมกันในช่วงเดือนม.ค.เพราะฉะนั้นการสอบรับตรงประจำปีการศึกษา 2557 มหาวิทยาลัยจะจัดสอบเดือน ม.ค.2557 ถ้าจะขยับการสอบก็จะทำให้รวนไปทั้งระบบ แต่เมื่อสิ้นสุดการดำเนินการจะสรุปปัญหาอุปสรรคต่างๆ ทั้งหมด เพื่อนำไปปรับใช้ในปีการศึกษา 2558

ศ.ดร.สมคิด กล่าวต่อไปว่า นอกจากนี้ที่ประชุมยังได้มีการหารือถึงข้อเสนอ ทปอ.ที่ให้มีการศึกษาถึงการแยกอุดมศึกษา ออกจากกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.)มาเป็น กระทรวงอุดมศึกษาและการวิจัย ซึ่งเห็นตรงกันว่าจะเดินหน้าต่อไป ขณะที่ ศ.(พิเศษ) ดร.ทศพร ศิริสัมพันธ์ เลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา (เลขาธิการ กกอ.) เห็นว่าหากจะแยกออกมาเป็นกระทรวงอุดมศึกษาและการวิจัย เป็นโจทย์ใหญ่และเป็นไปได้ยาก จึงไม่ได้เสนอให้มีการตั้งเป็นทบวง ภายใต้ ศธ. ซึ่งในประเทศไทยยังไม่เคยมีการตั้งทบวงภายใต้กระทรวงมาก่อน แต่แนวทางดังกล่าวมีการกำหนดไว้ในมาตรา 11 ของพ.ร.บ.ระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน อย่างไรก็ตาม ส่วนตัวแล้วเห็นด้วยเพราะจะทำให้มหาวิทยาลัยมีความอิสระและยังมีความเชื่อมโยงกับศธ.อยู่

รศ.ดร.วันชัย ศิริชนะ อธิการบดี มฟล. ในฐานะประธานคณะทำงานศึกษา และจัดทำโครงการจัดตั้งกระทรวงอุดมศึกษาและวิจัย กล่าวว่า ส่วนตัวเห็นว่าไม่อยากให้เป็นทบวงที่อยู่ภายใต้ ศธ. แต่อยากให้เป็นทบวงอิสระ เพราะจะทำให้รัฐมนตรีประจำทบวงมีอิสระในการบริหารงาน ไม่ต้องไปขึ้นตรงต่อ รมว.ศึกษาธิการ

ขณะที่ ศ.(พิเศษ) ดร.ทศพร กล่าวว่า ได้เสนอกับที่ประชุม ทปอ. ใน 4 เรื่อง ได้แก่

1. ให้มหาวิทยาลัยต่างๆ มีบทบาทสำคัญต่อการช่วยเหลือประเทศและแข่งขันกับต่างประเทศได้ โดยเฉพาะการสร้างงานวิจัย และทำเรื่องธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) ช่วยเหลือผู้ประกอบการของประเทศ และช่วยชุมชนรอบมหาวิทยาลัยให้มีความเข้มแข็งซึ่งมหาวิทยาลัยก็รับข้อเสนอดังกล่าวแล้ว

2.เรื่องการประกันคุณภาพภายในของสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) และการประเมินคุณภาพภายนอกของสำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา (สมศ.) ซึ่งเห็นว่า ไม่ควรมีหลักเกณฑ์เดียวที่ใช้กับทุกหน่วยงาน แต่ควรมีหลักเกณฑ์ที่หลากหลาย

3. เรื่องกฎหมายอุดมศึกษา โดยเฉพาะที่เกี่ยวกับการบริหารงานบุคคลนั้นตนไม่เห็นด้วยที่จะใช้มาตรฐานเดียวกันทุกมหาวิทยาลัย แต่ควรจะกำหนดเป็นมาตรฐานขั้นต่ำที่นำไปใช้ร่วมกันได้ตามความเหมาะสม

4.เรื่องกระทรวงอุดมศึกษาฯ ซึ่ง ทปอ.ได้มีการทำเรื่องแยกเป็นกระทรวงอุดมศึกษาฯ ซึ่งจากประสบการณ์ที่ตน เป็นเลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (กพร .) เห็นว่าการตั้งกระทรวงใหม่เป็นเรื่องยาก ดังนั้น ควรมีการจัดตั้งเป็นทบวง โดยมีบทบาทเรื่องอุดมศึกษาโดยเฉพาะ เพราะถ้านำในส่วนงานวิจัยมารวมด้วยอาจจะมีปัญหากับกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี รวมทั้งยังต้องการให้มีการแยกในส่วนอุดมศึกษา ออกจากการศึกษาขั้นพื้นฐาน ด้วย

ที่มา: http://www.naewna.com

http://www.moe.go.th/moe/th/news/detail.php?NewsID=34444&Key=hotnews