4 มีนาคม 2556
นายวิโรจน์ กล่ำกล่อมจิตต์ ผอ.โรงเรียนบ้านห้วยมงคล จ.ประจวบคีรีขันธ์ กล่าวถึงการนำคะแนนแบบทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน (โอเน็ต) มาใช้เป็นส่วนหนึ่งในกิจกรรม อาทิ การเข้าเรียนต่อในระดับต่างๆ การประเมินวิทยฐานะของครูและผู้บริหารว่า ขณะนี้โรงเรียนขนาดเล็ก กลาง หรือใหญ่ ต่างเร่งดำเนินการพัฒนาคะแนนโอเน็ตของนักเรียนให้ดีขึ้น ในส่วนของโรงเรียนบ้านห้วยมงคล ได้จัดค่ายวิชาการให้แก่นักเรียนที่เตรียมสอบโอเน็ต โดยจัดติว 2 ชั่วโมงในช่วงเย็นของทุกวัน
แต่ก็เป็นเพียงการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าเท่านั้น โรงเรียนจึงจำเป็นต้องหาวิธีการอื่นที่จะส่งเสริมให้นักเรียนมีการพัฒนาอย่างยั่งยืนต่อไป โดยภาคเรียนที่ 2 ซึ่งเป็นฤดูการสอบโอเน็ต นักเรียนที่เตรียมตัวสอบจะเสียโอกาสในบางเรื่อง เช่น การเสริมอาชีพให้กับนักเรียนซึ่งมีช่วงเวลาตรงกัน การให้ความสำคัญกับคะแนนโอเน็ตเป็นเรื่องที่ดี เพราะไม่เช่นนั้นนักเรียนจะไม่ตั้งใจสอบ โดยปีนี้ตั้งเป้าว่าจะต้องพัฒนาให้คะแนนในภาพรวมของโรงเรียนเพิ่มขึ้น 3 เปอร์เซ็นต์
ผอ.โรงเรียนบ้านห้วยมงคลกล่าวต่อว่า พร้อมกันนี้อยากให้สถาบันทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ (สทศ.) จัดอบรมการออกข้อสอบให้กับครูทั่วประเทศ เพราะขณะนี้มีปัญหาอยู่ที่การออกข้อสอบของครูที่จะใช้ประเมินเด็กในแต่ละชั้นเรียน เนื่องจากทั้งหมดยังใช้แนวข้อสอบแบบเก่าๆ คือนำความรู้จากหนังสือเรียนมาถามตรงๆ ไม่ได้เป็นการฝึกคิดวิเคราะห์ให้กับนักเรียน ทำให้นักเรียนคิดวิเคราะห์ไม่เป็น
“ผิดกับแนวการออกข้อสอบของ สทศ.ที่มีการพัฒนาอยู่ตลอดเวลา ดังนั้นหาก สทศ.จัดอบรมให้ความรู้แก่ครูเกี่ยวกับแนวทางการออกข้อสอบว่าเป็นอย่างไร โรงเรียน และสทศ.จะสามารถก้าวไปพร้อมๆ กันได้ แต่หากครูไม่ได้รับการอบรมที่ถูกต้อง เหมือนต่างคนต่างเดิน โรงเรียนจะตามไม่ทันอย่างแน่นอน” ผอ.โรงเรียนบ้านห้วยมงคลกล่าว
ที่มา: http://www.matichon.co.th/khaosod
http://www.moe.go.th/moe/th/news/detail.php?NewsID=31889&Key=hotnews

