ศธ.หากลยุทธ์ดึงเด็กสามัญเรียนอาชีวะ

19 สิงหาคม 2556

นายจาตุรนต์ ฉายแสง รมว.ศึกษาธิการ เปิดเผยว่า จากการประชุมคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (กอศ.) เมื่อเร็ว ๆ นี้ ที่ประชุมได้หารือถึงผลงานวิจัยจากต่างประเทศที่ประสบความสำเร็จในการสร้างกำลังคนสายอาชีพ เช่น เยอรมนี ที่พบว่าการให้นักเรียนสายสามัญเข้าไปเรียนรู้ในสถาบันอาชีวศึกษาเป็นช่วงระยะเวลาสั้น ๆ เช่น 2 สัปดาห์ ช่วยให้เด็กเข้าใจการเรียนสายอาชีพและสนใจเลือกเรียน สายอาชีพเพิ่มขึ้น จึงได้มอบนโยบายให้สำนักงานคณะกรรมการ การอาชีวศึกษา (สอศ.) นำแนวคิดนี้ไปศึกษาความเป็นไปได้ อย่างน้อยถ้าไม่สามารถส่งนักเรียนไปทดลองเรียนได้ ก็อาจทำในลักษณะ จัดโปรแกรมไปทัศนศึกษาดูการเรียนการสอนของวิทยาลัยอาชีวศึกษาที่อยู่ใกล้ ๆ โรงเรียน เพื่อให้นักเรียนได้มีโอกาสเรียนรู้ว่า การเรียนสายอาชีพนั้นมีการเรียนอะไรกันบ้าง และได้มีโอกาสรู้ว่าสายอาชีพเมื่อเรียนจบออกมาแล้วมีงานทำซึ่งเป็นสิ่งที่สำคัญมาก

นายจาตุรนต์ กล่าวต่อไปว่า แม้ว่าจะต้องมีการดำเนินการ หลาย ๆ ด้านไปพร้อมกันเพื่อให้นโยบายปรับสัดส่วนผู้เรียนประสบความสำเร็จ แต่สิ่งสำคัญสุด คือ ต้องเปลี่ยนค่านิยมการเรียนสายอาชีพให้ได้ สื่อสารกับผู้ปกครองและนักเรียนให้เข้าใจว่าผู้ที่เรียนจบระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) และระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ ชั้นสูง (ปวส.) มีโอกาสทำรายได้สูงกว่าผู้ที่จบปริญญาตรี และนอก จากการปรับเปลี่ยนเรื่องค่านิยมแล้วจะต้องปรับเปลี่ยนระบบแนะแนวด้วย ปัจจุบันยังมีปัญหาแย่งเด็กระหว่างสายสามัญกับสายอาชีพ อยู่ เพราะฉะนั้นต้องทำความเข้าใจกับสำนักงานคณะกรรมการ การศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) และสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริม การศึกษาเอกชน (สช.) ไม่ให้แย่งเด็กหรือปิดกั้นเด็กมาเรียนสาย อาชีพ

“กรรมการบอร์ด กอศ.จากภาคเอกชนที่ดูแลนิคมอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ให้ข้อมูลว่าเฉพาะนิคมอุตสาหกรรมแห่งนั้นที่เดียวต้อง การแรงงานฝีมือภายใน 5 ปีกว่า 5 แสนคน ขณะที่มีนักเรียนจบมัธยมศึกษาตอนต้น แค่ปีละ 9 แสนคน หากครึ่งหนึ่งเลือกเรียนต่อสายอาชีพ เฉพาะนิคมอุตสาหกรรมแห่งนั้นแห่งเดียวก็ต้องการแรงงานปีละกว่า 1 แสนคนแล้ว เพราะฉะนั้นการเพิ่มผู้เรียนสายอาชีพจึงไม่มีปัญหาเรื่องตำแหน่งงานรองรับ” รมว.ศธ. กล่าว.

–เดลินิวส์ ฉบับวันที่ 19 ส.ค. 2556 (กรอบบ่าย)–

http://www.moe.go.th/moe/th/news/detail.php?NewsID=33737&Key=hotnews