6 พฤศจิกายน 2556
นายบัณฑิตย์ ศรีพุทธางกูร เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (กช.) เปิดเผยว่า ตามที่กระทรวงศึกษาธิการได้ประกาศนโยบายปีแห่งการรวมพลังยกระดับคุณภาพการศึกษา ซึ่งมี นโยบายที่เกี่ยวข้องกับการจัดการศึกษาเอกชนในหลายประการ อาทิ นโยบายเร่งปฏิรูปการเรียนรู้ทั้งระบบให้สัมพันธ์เชื่อมโยงกัน นโยบายปฏิรูประบบผลิตและพัฒนาครู นโยบายพัฒนาคุณภาพการอาชีวศึกษาให้มีมาตรฐานระดับสากล และนโยบายส่งเสริมให้เอกชนและทุกภาคส่วนเข้ามามีส่วนร่วมจัดและสนับสนุนการศึกษาในสัดส่วนที่เพิ่มขึ้น ซึ่งแต่ละนโยบายนั้น ถือว่ามีความสำคัญต่อการจัดการศึกษาเอกชนเป็นอย่างยิ่ง ซึ่ง สช.ได้กำหนดแนวทางในการขับเคลื่อนนโยบายส่งเสริมให้เอกชนและทุกภาคส่วนเข้ามาร่วมจัดและสนับสนุนการศึกษา เช่น การยกระดับมาตรฐานและคุณภาพการศึกษาเอกชน การปรับปรุงกฎ
ระเบียบขั้นตอนต่าง ๆ และขั้นตอนการดำเนินงานที่เป็นปัญหาอุปสรรคต่อการจัดการศึกษาเอกชน รวมถึงการปรับปรุงการให้เงินอุดหนุนโรงเรียนเอกชนให้สอดคล้องกับต้นทุนที่แท้จริง นายบัณฑิตย์ กล่าวต่อไปว่า สำหรับกรณีที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้อนุมัติเงินค่าอาหารกลางวันนักเรียนต่อหัวจากเดิม 13 บาท เป็น 20 บาท นั้น สช.จะดำเนินการปรับเกณฑ์การอุดหนุน เพื่อให้สอดคล้องกับมติ ครม. ที่ว่างบประมาณค่าอาหารกลางวันสำหรับนักเรียนโรงเรียนเอกชนที่จะเพิ่มขึ้นจำนวน 659 ล้านบาท นั้น ให้ขอรับการสนับสนุนจากดอกผลของเงินกองทุนเพื่อโครงการอาหารกลางวันในโรงเรียนประถมศึกษา และทาง สช.เองก็จะมีการกำหนดเกณฑ์การปรับปรุงการให้เงินอุดหนุนโรงเรียนเอกชนเพื่อให้สอดคล้องกับต้นทุนที่แท้จริง ต่อไป.
–เดลินิวส์ ฉบับวันที่ 7 พ.ย. 2556 (กรอบบ่าย)–
http://www.moe.go.th/moe/th/news/detail.php?NewsID=34701&Key=hotnews