4 เมษายน 2556
ณัชชารีย์ วิเชียรรัตน์
นาทีนี้..การเตรียมความพร้อมให้แก่คนของประเทศ เพื่อเข้าสู่การเป็นประชาคมอาเซียน ถือเป็นเรื่องสำคัญยิ่ง โดยเฉพาะทักษะภาษาอังกฤษและภาษาเพื่อนบ้านในอาเซียน ซึ่งสำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย (สำนักงาน กศน.) เป็นอีกหน่วยงานหนึ่งที่เร่งเสริมทักษะภาษาอังกฤษให้คนไทยวัยผู้ใหญ่ ที่อยู่นอกระบบโรงเรียน โดยเปิดสอนหลักสูตรการศึกษานอกระบบระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน พ.ศ. 2551 ภาคภาษาอังกฤษ หรือที่เรียกว่า หลักสูตรอีพี ( English Program: EP)
ปลายปีที่ผ่านมา สำนักงาน กศน. จังหวัดทุกแห่งทั่วประเทศ ได้ประเดิมเปิดห้องเรียนอีพี จังหวัดละ 1 ห้องเรียน เพื่อเตรียมความพร้อมให้แก่ประชาชนในพื้นที่ โดยเมื่อเร็ว ๆ นี้ นายประเสริฐ บุญเรือง เลขาธิการ กศน. และคณะได้ลงพื้นที่ภาคใต้ เพื่อตรวจเยี่ยม พร้อมทั้งรับฟังปัญหา การจัดการเรียนการสอนอีพี ของ กศน. จังหวัดตรัง กระบี่ และสุราษฎร์ธานี ซึ่งพบว่าแต่ละพื้นที่มีรูปแบบการจัดการเรียนการสอนในลักษณะที่คล้ายคลึงกัน คือ นักศึกษาจะได้เรียนกับครูชาวต่างชาติ โดยมีครูไทยเป็นพี่เลี้ยง สอนแบบบูรณาการวิชาต่าง ๆ เน้นสื่อสารโต้ตอบระหว่างครูกับนักศึกษา และนักศึกษาด้วยกันเองบ่อย ๆ และมีการจัดกิจกรรมนอกห้องเรียน โดยพาไปทัศนศึกษาเพื่อได้พบปะกับชาวต่างชาติที่มาท่องเที่ยวในพื้นที่นั้น ๆ เป็นต้น
การเปิดสอนอีพีในช่วงแรกของ กศน.ไม่ได้ราบรื่น เหมือนแผนการดำเนินงานที่เขียนไว้ เพราะเจออุปสรรคที่ต้องรอการปรับปรุงแก้ไข ทั้งหนังสือเรียนตามหลักสูตรที่ใช้ในการสอน ค่าตอบแทนครูชาวต่างชาติ การต่อวีซ่าและการทำสัญญาจ้างสอนของครูต่างชาติในประเทศไทย เป็นต้น ซึ่ง นางกานดา ทองคลองไทร ผอ.กศน.จังหวัดสุราษฎร์ธานี เล่าว่า กศน.จังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้เลือก กศน.อำเภอเกาะสมุย เป็นพื้นที่นำร่องเปิดห้องเรียนอีพี เพราะมีชาวต่างชาติเข้ามาท่องเที่ยวเป็นจำนวนมาก และประชาชนในพื้นที่ต้องใช้ภาษาอังกฤษในการสื่อสาร โดยเปิดสอนทั้งระดับ ม.ต้น และ ม.ปลาย มีนักศึกษา44 คน มีครูผู้สอนเป็นชาวอังกฤษ สอนวันจันทร์-พุธ เวลา 18.00-21.00 น. และวันอาทิตย์ 09.00-16.00 น.
“แม้ กศน.อำเภอเกาะสมุย จะได้ครูเจ้าของภาษาที่มีประสบการณ์สูงมาสอน แต่ก็ยังพบปัญหาว่าหนังสือที่ส่วนกลางให้สอนใช้คำศัพท์ที่ยากเกินไป ไม่เหมาะสมกับพื้นฐานภาษาอังกฤษของคนที่เข้ามาเรียน เช่น วิชาเศรษฐกิจพอเพียง ซึ่งมีคำศัพท์เฉพาะ และเป็นศัพท์ระดับมหาวิทยาลัย อีกทั้งครูผู้สอนก็ไม่มีพื้นฐานในวิชาที่สอน จึงต้องแก้ปัญหาด้วยการให้เด็กได้อ่านวิชานี้เป็นภาษาไทยก่อน เมื่อมาเรียนเป็นภาษาอังกฤษจะได้เข้าใจง่ายขึ้น และความหมายไม่ผิดเพี้ยน ซึ่งส่วนตัวมองว่าไม่ควรนำหลักสูตรภาษาไทยมาแปลเป็นภาษาอังกฤษ แต่ควรที่จะจัดทำหลักสูตรอีพีขึ้นมาเป็นการเฉพาะจะดีกว่า นอกจากนี้ควรปรับเพิ่มค่าตอบแทน และสวัสดิการให้ครูต่างชาติด้วย เพราะที่ได้รับอยู่ปัจจุบันอัตราเดือนละ 20,000 บาท ถือว่าน้อยเกินไป โดยเฉพาะพื้นที่เกาะสมุย ซึ่งมีค่าครองชีพสูงมาก จึงอาจทำให้ครูต่างชาติอยู่สอนกับ กศน. ได้ไม่นาน และจะเกิดปัญหาการขาดครูตามมาอีก” นางกานดา บอกถึงความกังวล
ด้าน นางสุวดี ผิวดี ครูอาสาสมัคร กศน.อำเภอเมืองกระบี่ กล่าวว่า กศน.อำเภอเมืองกระบี่ เปิดห้องเรียนอีพี ระดับ ม.ต้น เรียนวันจันทร์-พฤหัสบดี ตั้งแต่เวลา09.00-15.30 น. มีนักศึกษา 18 คน โดยมีครูชาวฟิลิปปินส์เป็นผู้สอน ซึ่งในการเรียนนอกจากจะแจกหนังสือเรียนในวิชาภาษาอังกฤษพื้นฐาน เศรษฐกิจพอเพียง และทักษะการเรียนรู้ ซึ่งเป็นวิชาที่ใช้เรียนในภาคเรียนที่1 แล้วที่นี่ยังแจกจีแพด (G-Pad) แก่ทุกคน เพื่อใช้เป็นเครื่องมือในการเรียนการสอน โดยเฉพาะการโหลดแอพพลิเคชั่นที่เป็นประโยชน์ อาทิ ดิคชันนารี กริยา3 ช่อง รวมถึงติดต่อสื่อสาร และส่งการบ้านครูด้วย
ขณะที่ผู้เรียนทั้งที่ กศน.จังหวัดตรัง กระบี่ และสุราษฎร์ธานี ซึ่งในทุกพื้นที่มีพื้นฐานการศึกษาที่แตกต่างกันคือ จบการศึกษาตั้งแต่ชั้น ป.6 จนถึงปริญญาตรี ทำงานหลากหลายอาชีพ ทั้งคนเก็บขยะ พนักงานโรงแรม ไกด์นำเที่ยว พนักงานองค์การบริหารส่วนตำบล พนักงานบริษัท โดยทุกคนต่างบอกถึงความรู้สึกที่คล้ายคลึงกันว่า รู้สึกว่าตัวเองโง่มานานแล้วกับภาษาอังกฤษ และดีใจที่ กศน. เปิดห้องเรียนอีพี เพราะการเรียนภาษาอังกฤษโดยทั่วไป
ต้องเสียความใช้จ่ายสูงมาก พวกตนไม่มีเงินไปเรียน และเมื่อมาเรียนกับครูเจ้าของภาษาแล้วทำให้สามารถใช้ภาษาอังกฤษได้ กล้าพูดคุยกับชาวต่างชาติมากขึ้น โดย นางพัชรี ช้างเผือก อายุ 43 ปี บอกว่า แม้ตนเองจะจบการศึกษาระดับปริญญาตรีมาแล้ว แต่ก็ยังพูดคุยโดยใช้ภาษาอังกฤษไม่ได้ ซึ่งตนเชื่อว่ายังมีผู้ที่จบปริญญาตรีอีกหลายคนที่เป็นเหมือนตนเอง ดังนั้นขอชวนให้มาเรียนภาษาอังกฤษกันใหม่ โดยต้องไม่อาย เพราะภาษาอังกฤษจะเข้ามามีบทบาทในชีวิตคนไทยมากขึ้น
นายประเสริฐ ย้อนถึงที่มาของโครงการเปิดสอนหลักสูตรอีพีว่า สำนักงาน กศน. มีนโยบายเตรียมความพร้อมประชาชน เพื่อก้าวเข้าสู่ประชาคมอาเซียน ในปี 2558 โดยเฉพาะการใช้ภาษาอังกฤษ ซึ่งเป็นภาษากลางที่ใช้ในการติดต่อสื่อสาร จึงมอบให้ กศน.จังหวัดทุกแห่งเปิดห้องเรียนอีพีขึ้น โดยนำหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐานของ กศน. มาแปลและสอนเป็นภาษาอังกฤษทุกวิชา โดยให้เรียนฟรีทุกคน เพราะถือเป็นการศึกษาขั้นพื้นฐาน ซึ่งรัฐบาลอุดหนุนค่าใช้จ่ายรายหัวให้คนละ 6,000 บาทต่อภาคเรียน ในการเปิดสอนนั้น ปีแรกนำร่องเปิดจังหวัดละ 1 ห้องเรียน โดยให้ กศน.จังหวัดเป็นผู้คัดเลือกว่าจะเปิดสอนในพื้นที่ใดก่อน สามารถเปิดได้ทั้งระดับประถมฯ ม.ต้น และม.ปลาย ทั้งนี้ในแต่ละระดับต้องจัดการเรียนการสอนไม่น้อยกว่า 4 วันต่อสัปดาห์ เป็นเวลา22ปี 4 ภาคเรียน
“ยอมรับว่าหลักสูตรอีพีเป็นเรื่องใหม่ ที่ กศน. ต้องปรับปรุง และแก้ไขปัญหาต่าง ๆ แต่หากรอให้พร้อมทุกอย่างแล้วค่อยเปิดสอนเราคงไม่ได้เปิดหลักสูตรนี้ เนื่องจาก กศน. จัดการศึกษาให้คนด้อยโอกาส และผู้เรียนก็ไม่มีความพร้อมมากนัก ดังนั้นคงต้องช่วยกันประคับประคอง และ กศน.ก็พร้อมที่จะพัฒนาปรับปรุงในทุกเรื่อง”เลขาธิการ กศน. กล่าว
แม้มีหลากหลายปัญหาที่ต้องแก้ไข แต่การให้โอกาสทางการศึกษาแก่ประชาชนที่อยู่นอกรั้วโรงเรียน ได้เริ่มต้นตั้งหลักกับภาษาที่ไม่คุ้นเคย ถือเป็นการปูทางให้คนในพื้นที่มีความพร้อมรับทั้งนักท่องเที่ยว และพร้อมในการเปิดประตูสู่ประชาคมอาเซียนของไทย.
–เดลินิวส์ ฉบับวันที่ 5 เม.ย. 2556 (กรอบบ่าย)–
http://www.moe.go.th/moe/th/news/detail.php?NewsID=32366&Key=hotnews