25 กันยายน 2556
เครือข่ายเยาวชนร้อง รมว.ศธ.ดูแลร้านเหล้ารอบมหาวิทยาลัยแนะให้ออกกฎหมายลูกควบคุมหลังพบนักดื่มหน้าใหม่เพิ่ม 2.5 แสนคนต่อปี ระบุจากการวิจัยพบร้านขายรอบสถานศึกษากว่า 340 ร้านชี้ทำผิดกฎหมายอย่างชัดเจน
วานนี้ (24 ก.ย.) ที่กระทรวงศึกษาธิการ นายธีรภัทร์ คหะวงศ์ ผู้ประสานงานเครือข่ายเยาวชนป้องกันนักดื่มหน้าใหม่ พร้อมด้วย มูลนิธิเพื่อนเยาวชนเพื่อการพัฒนา นำตัวแทนนักศึกษากว่า 30 คน จากหลายสถาบันการศึกษา เข้าพบ นายจาตุรนต์ ฉายแสง รมว.ศึกษาธิการ เพื่อร้องเรียนปัญหาร้านเหล้ารอบมหาวิทยาลัย โดยมีศ.ธเนศวร์ เจริญเมือง ที่ปรึกษา รมว.ศึกษาธิการ มารับเรื่องแทน
นายธีรภัทร์ กล่าวว่า ได้นำหลักฐานการทำผิดพ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์พ.ศ.2551และผลสำรวจความหนาแน่นของร้านเหล้ารอบสถานศึกษามามอบให้ ศธ. พร้อมนำเสนอข้อเรียกร้อง 3 เรื่อง ประเด็นแรก ขอเรียกร้องให้ ศธ.ในฐานะเป็นหน่วยงานด้านการศึกษา เป็นเจ้าภาพหลักวางแผนแก้ปัญหาเรื่องแอลกอฮอล์และเยาวชน 2. ขอเรียกร้องให้ รมว.ศึกษาธิการ ซึ่งเป็นหนึ่งในกรรมการนโยบายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แห่งชาติ เป็นเจ้าภาพหลักในการแก้ไขปัญหาร้านเหล้ารอบมหาวิทยาลัย โดยผลักดันให้การออกกฎหมายลูกภายใต้ พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ. 2551ห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในรัศมี 300 เมตรรอบมหาวิทยาลัย ให้มีผลบังคับใช้โดยเร็ว ปัจจุบัน แม้จะมีนโยบายห้ามร้านเหล้าตั้งอยู่ในรัศมี 300 เมตรรอบสถานศึกษาอยู่แล้ว แต่ได้รับการปฏิเสธในทางปฏิบัติและ 3. ขอให้กระทรวงศึกษาออกประกาศห้ามไม่ให้สถานศึกษาร่วมมือกับธุรกิจเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ทำกิจกรรมเชิงสังคม หรือ CSR รวมถึงไม่ให้รับทุนการศึกษาจากบริษัทผู้ผลิตเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกประเภท ป้องกันไม่ให้ธุรกิจเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แทรกซึมมาทำประชาสัมพันธ์ผลิตภัณฑ์กับเยาวชน
“ปัจจุบัน เยาวชนเป็นเป้าหมายหลักของธุรกิจเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ร้านเหล้าต่างๆ ก็มีเยาวชนเป็นลูกค้าหลัก ขณะที่ ธุรกิจเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ก็มีกลยุทธในการเข้าถึงเด็กและเยาวชนที่แนวเนียนขึ้น เพราะฉะนั้น ถ้าภาครัฐไม่ออกยาแรงมาใช้ เยาวชนจะอยู่ในภาวะเสี่ยงและมีปัญหาตามมามากมาย อย่างไรก็ตาม จริง ๆ แล้ว ทุกคนรู้ดีถึงปัญหาที่มีอยู้ ผู้มีอำนาจก็รู้ แต่ไม่มีใครจัดการอย่างจริงจัง มองกันเป็นเรื่องธรรมดา “ นายธีภัทร์ กล่าวและว่า ยอมรับว่าการจัดโซนนิ่งร้านเหล้าทำได้ยาก จึงเป็นสาเหตุหลักของการเข้าถึงง่าย ซึ่งใช้เวลาไม่เกิน 5 นาทีก็หาซื้อสุรามาดื่มได้ ทำให้จำนวนนักดื่มหน้าใหม่เพิ่มขึ้นถึง 250,000 รายต่อปี อย่างไรก็ตามเครือข่ายเยาวชนฯได้พูดคุยและเฝ้าระวังปัญหาดังกล่าวมาอย่างต่อเนื่อง เห็นตรงกันว่าผลกระทบจากร้านเหล้ารอบมหาวิทยาลัยได้ลุกลามจนกลายเป็นปัญหาใหญ่ ทั้งเสียการเรียน อุบัติเหตุ ทะเลาะวิวาท คุกคามทางเพศ แต่กลับไม่มีมาตรการป้องกันที่ตรงจุดหรือแนวทางที่ชัดเจน และหลายแห่งยังกลายเป็นแหล่งมั่วสุมทั้งอบายมุขและการพนันด้วย
ทั้งนี้ข้อมูลที่เครือข่ายเยาวชนได้นำมาร้องเรียนต่อกระทรวงศึกษาธิการนั้น เป็นข้อมูลที่ได้จากการลงพื้นที่สำรวจร้านจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์รอบสถานศึกษา12 แห่ง อาทิ ม.รามคำแหง มรภ.จันทรเกษม ม.หอการค้าไทย ม.เกษตรศาสตร์ เมื่อวันที่ 3-10 ก.ย.56 ในรัศมี 300 เมตร พบว่า มีร้านจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทั้งสิ้น 340 ร้าน เฉลี่ย 28 ร้านต่อ 1 มหาวิทยาลัย และที่น่าตกใจคือ กว่า 105 ร้าน หรือ 1 ใน 3 ที่ขายเหล้าบริเวณหอพัก ซึ่งเป็นการทำผิด พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ.2551 อย่างชัดเจน ทั้งนี้ในการสำรวจความคิดเห็นนักศึกษา พบว่า 64.98 %เห็นด้วยอย่างยิ่ง หากมีกฎหมายมาควบคุมให้ร้านเหล่านี้อยู่ห่างจากสถานศึกษา อย่างน้อย 300 เมตร ซึ่งเรื่องนี้กระทรวงสาธารณสุขเสนอมานานแล้ว แต่ยังไม่ผ่านการพิจารณาคณะกรรมการนโยบายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
Source – ASTV ผู้จัดการออนไลน์ (Th)
http://www.moe.go.th/moe/th/news/detail.php?NewsID=34236&Key=hotnews

