18 กรกฎาคม 2556
นายจาตุรนต์ ฉายแสง รมว.ศึกษาธิการ เปิดเผยถึงกรณีที่นายเสริมศักดิ์พงษ์พานิช รมช.ศึกษาธิการ จะขอตรวจสอบกรณีการทุจริตสอบครูผู้ช่วย กรณีที่มีความจำเป็นหรือเหตุพิเศษ ว12 ต่อเนื่องจากเป็นทำเรื่องนี้มาตั้งแต่ต้นว่าต้องดูภาพรวมทั้งหมดก่อนว่าที่ผ่านมามีการดำเนินการอย่างไร รวมทั้งการตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงต่างๆมีปัญหาอะไรหรือไม่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าผู้ถูกสอบสวนวินัยอย่างร้ายแรง เป็นผู้บริหารระดับสูงก็ควรจะต้องมาพิจารณาให้รอบคอบว่า คนที่มีความเหมาะสมจะมาดำเนินการสอบสวนควรจะเป็นใครขณะเดียวกันต้องพิจารณาด้วยว่า ควรจะเป็นคนในกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.)หรือควรจะคนนอกที่มาจากกระทรวงอื่นโดยเน้นว่ากระบวนการสอบสวนทุกขั้นตอนจะดำเนินไป เพื่อให้เกิดความยุติธรรม ความสุจริต และป้องกันการทุจริตได้อย่างจริงจัง รวมถึงจะต้องแน่ใจว่าไม่มีการชี้นำ หรือมีความมุ่งหมายทางการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้องอย่างเด็ดขาด
“ส่วนจะให้นายเสริมศักดิ์ ดูแลต่อหรือไม่ คงต้องหารือกันอีกครั้งและหากมีความจำเป็น ก็คงต้องให้หน่วยงานภายนอกเข้ามาช่วยดูแลกระบวนการสอบสวน ส่วนการสอบสวนของคณะกรรมการสอบสวนชุดต่างๆ ที่กำลังดำเนินการอยู่ขณะนี้ ก็ขอให้ดำเนินการต่อให้เต็มที่ไม่มีการล้มมวย ไม่มีการให้ชะลอ โดยเร็วๆ นี้จะขอให้ทุกส่วนที่เกี่ยวข้องมาบรรยายสรุปเรื่องการทุจริตทั้งหมดของศธ. และจะขอความเห็นจากผู้ที่เกี่ยวข้องก่อน เพราะเวลานี้ที่ต้องระวังคือถ้าฝ่ายการเมืองไปสั่งอะไรสุ่มสี่สุ่มห้า ไปทำตรงข้ามในทางที่ไม่ถูกต้อง อาจจะกลายเป็นให้คุณให้โทษกับคนได้”
นายจาตุรนต์ กล่าวและว่า โดยสาเหตุที่ตนต้องขอประมวลภาพรวมทั้งหมดก่อน เนื่องจากเรื่องทุจริตที่เกิดขึ้นใน ศธ. เป็นเรื่องที่ค่อนข้างใหญ่ และเกี่ยวข้องกับผู้บริหารระดับสูง ดังนั้นการตั้งคณะกรรมการสอบสวนเรื่องดังกล่าวก็ต้องมาดูว่าเป็นผู้มีส่วนได้ส่วนเสียหรือไม่ เพราะหากตั้งผู้ที่ได้ประโยชน์จากการไปปลดอีกคนหนึ่งออก ก็ต้องระวัง เพราะ ศธ.มีโครงสร้างพิเศษ คือผู้บริหารระดับ 11 ดูแลองค์กรหลักถึง 5 คน จึงต้องดูให้รอบคอบ แต่ที่รับประกันได้แน่นอน คือการดำเนินการทุกขั้นตอนจะทำให้ถูกต้อง และเกิดความยุติธรรมมากที่สุด สำหรับหน่วยงานภายนอกที่จะเข้ามาช่วยดูเรื่องนี้ อาจจะเป็นผู้แทนจากสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นต้น
ส่วนจากกรณีที่นายเสริมศักดิ์ จะเร่งผลักดันร่าง พ.ร.บ.การศึกษาตลอดชีวิต พร้อมสนับสนุนให้สำนักงาน กศน.ให้เป็นองค์กรอิสระที่แยกออกจากสำนักงานปลัด ศธ.นั้น นายจาตุรนต์ ยืนยันว่ายังไม่ได้ศึกษาในรายละเอียดของร่างพ.ร.บ.การศึกษาตลอดชีวิต ทั้งยังต้องหารือกับสำนักงานปลัด ศธ. ว่ายังมีงานอะไรที่ค้างคาและจะสะสางอยู่หรือไม่ ส่วนที่มีเสียงเรียกร้องให้มีการแยกสำนักงานกศน. เป็นองค์กรอิสระนั้น คงต้องใช้เวลาอีกพอควรที่จะพิจารณา ซึ่งรวมถึงหน่วยงานอื่นๆที่จะเสนอขอให้ปรับโครงสร้างด้วย
“ที่ผ่านมา ศธ.มัวสาละวนกับเรื่องโครงสร้าง ทำให้เสียโอกาสในการปฏิรูปการศึกษาของชาติ ซึ่งเป็นที่น่าเสียดายผมจึงขอเน้นการปฏิรูปการเรียนการสอนก่อนเป็นอันดับแรก ส่วนเรื่องการปรับโครงสร้างจะรับฟังความคิดเห็นทุกฝ่ายแต่จะไม่ถือว่าเป็นเรื่องเร่งด่วน” นายจาตุรนต์ กล่าว
ที่มา: หนังสือพิมพ์สยามรัฐ
http://www.moe.go.th/moe/th/news/detail.php?NewsID=33404&Key=hotnews