คอลัมน์: รายงาน: อาชีวะ จับมือ กฟผ. สานต่อโครงการชีววิถีฯตามแนวพระราชดำริ สู่ชุมชน

6 มิถุนายน 2556

ณพาภรณ์ ปรีเสม 
การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยจัดงาน EGAT CSR DAY กฟผ. ปี 2556 ร่วมทำดี 44 ปี กฟผ. จะรักและดูแลกันตลอดไป เมื่อวันที่ 20-22 พฤษภาคม 2556 ที่ผ่านมา ภายในงานมีการลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือในโครงการชีววิถีเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน มุ่งนำแนวคิดเศรษฐกิจพอเพียงอันเนื่องมาจากพระราชดำริพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวไปจัดการเรียนการสอนในสถานศึกษา และขยายองค์ความรู้สู่ชุมชนโดยกฟผ. ร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) เพื่อเฉลิมพระเกียรติ

“…สิ่งสำคัญคือเราพออยู่พอกิน อุ้มชูตัวเราได้ให้มีความพอเพียงแก่ตัวเอง พึ่งตนเองได้ หมายความว่าให้สามารถดำรงชีวิตได้อย่างไม่เดือดร้อน มีความเป็นอยู่อย่างประมาณตน มีกินมีใช้ตามอัตภาพ แล้วที่เหลือจึงจะขายเป็นรายได้ต่อไป…” พระราชดำรัสพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เรื่อง”เศรษฐกิจพอเพียง” พระราชทานเมื่อวันที่4 ธันวาคม 2540 การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) มุ่งมั่นสืบสานพระราชปณิธานในเรื่องนี้ มาดำเนินการจัดตั้ง “โครงการชีววิถีเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน” ร่วมกับ สอศ. ดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2542 โดยการน้อมนำแนวคิดเศรษฐกิจพอเพียงตามแนวพระราชดำริ เรื่องเศรษฐกิจพอเพียงมาปฏิบัติ ซึ่งประกอบด้วย 4 เรื่อง ได้แก่ การปลูกพืช(กสิกรรม) การเลี้ยงปลาในบ่อขนาดเล็ก (ประมง) การเลี้ยงไก่ไว้กินไข่ (ปศุสัตว์)และการบำบัดน้ำเสีย โดยใช้จุลินทรีที่มีประสิทธิภาพ (สิ่งแวดล้อม) เป็นเครื่องช่วยให้เกิดความสำเร็จอย่างต่อเนื่อง ขยายผลสู่ครัวเรือน สู่ชุมชน สังคมเมือง องค์กรภาครัฐและเอกชนโดยดำเนินการในวิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยี วิทยาลัยประมง กลุ่มวิทยาลัยการอาชีพ กลุ่มวิทยาลัยเฉพาะทาง และกลุ่มวิทยาลัยเทคโนโลยีและการจัดการ ให้คณาจารย์ นักเรียน นักศึกษา มีการเรียนการสอนและจัดทำโครงการเพื่อความรู้จริงปฏิบัติจริงของนักศึกษาแล้วนำไปถ่ายทอดและขยายผลไปยังสถาบัน โรงเรียน ชุมชนประชาชน เกษตรกร ต่อไป

วิทยาลัยที่เข้าร่วมโครงการดำเนินกิจกรรมต่างๆ อาทิ ส่งเสริมการใช้จุลินทรีย์ที่มีประสิทธิภาพใน 4 กิจกรรม คือ การเพาะปลูก, การเลี้ยงสัตว์น้ำ, ปศุสัตว์ และการรักษาสิ่งแวดล้อม,เป็นศูนย์กลางเผยแพร่ความรู้ในการทำเกษตรกรรมตามแนวทางเศรษฐกิจพอเพียงฯ เพื่อที่ขยายผลการดำเนินงานสู่ชุมชนท้องถิ่นได้อย่างเป็นรูปธรรมและยั่งยืน โครงการชีววิถีฯตามแนวพระราชดำริมีวิทยาลัยสังกัด สอศ. ทำหน้าที่ศูนย์ประสานงานเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืนระดับภาค 4 แห่ง เพื่อประสานการดำเนินงาน และติดตามประเมินผลการดำเนินงานประจำปี ทั้งระดับภาค และระดับประเทศเพื่อคัดเลือกผู้มีผลงานดีเด่น เข้ารับรางวัลจาก กฟผ. และเผยแพร่ผลการดำเนินงานในระดับประเทศ

นายชัยพฤกษ์ เสรีรักษ์ เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา ให้สัมภาษณ์ว่า สอศ.ได้ร่วมดำเนินโครงการชีววิถีเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน กับ กฟผ. มากว่า 10 ปี ตั้งแต่ปี 2542 เป็นต้นมา ซึ่งนักเรียนนักศึกษาในสถานศึกษาสังกัด สอศ. ได้ประโยชน์จากโครงการชีววิถีฯ มากมายสำหรับในปีนี้ สอศ. มีนโยบายที่เน้นการดำเนินการ 2 เรื่อง ได้แก่ เรื่องเกษตรธรรมชาติและเรื่องการนำจุลินทรีย์ที่มีประสิทธิภาพมาใช้ประโยชน์ ทั้งนี้สิ่งที่ทาง สอศ. ได้ดำเนินการในกลุ่มวิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีกลุ่มวิทยาลัยการอาชีพ กลุ่มวิทยาลัยเฉพาะทาง และกลุ่มวิทยาลัยเทคโนโลยี และ การจัดการทั้ง 90 กว่าแห่งทั่วประเทศ ได้นำแนวคิดเศรษฐกิจพอเพียงอันเนื่องมาจากพระราชดำริของพระเจ้าอยู่หัวไปประยุกต์ใช้จัดการเรียนการสอน ซึ่งเป็นภารกิจหลักของ สอศ. โดยการนำแนวคิดนี้สู่การ ปฏิบัติในสถานศึกษา ให้นักเรียน นักศึกษาได้ปฏิบัติจริงโดยใช้พื้นที่ของสถานศึกษา และเรื่องการเผยแพร่นวัตกรรมเทคโนโลยีสู่ชุมชนโดยใช้พื้นที่ของสถานศึกษาเป็นแหล่งเรียนรู้ซึ่งทั้ง 2 เรื่องนี้ สอศ.ได้ดำเนิน ตามรอยพระยุคลบาทด้วยใจเต็มร้อยพร้อมยืนยันที่จะดำเนินโครงการชีววิถีฯ ร่วมกับกฟผ. ต่อไปเพื่อเป็นประโยชน์ต่อนักเรียน นักศึกษา และชุมชน

ด้านนายสุทัศน์ ปัทมสิริวัฒน์ ผู้ว่าการ กฟผ. ให้สัมภาษณ์เพิ่มเติมว่า โครงการชีววิถีเพื่อ การพัฒนาอย่างยั่งยืน กฟผ. ดำเนินการมานานแล้วมีผลสำเร็จเป็นรูปธรรมเพราะมองว่าสังคมไทยเป็นสังคมเกษตรกรรมเหมาะสมกับการนำแนวทางชีววิถีมาประ ยุกต์ใช้ โดยการดำเนิน โครงการชีววิถีฯ มีวัตถุประสงค์เพื่อสนองพระราชดำริเรื่องเศรษฐ กิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ลดการพึ่งพาสารเคมีลดการพึ่งพิงปัจจัยภาย นอกลดผลกระทบสิ่งแวดล้อม กฟผ.จะทำองค์ความรู้ผลสำเร็จให้ครู นักเรียน นักศึกษาสังกัด สอศ.และชุมชนได้ทดลองคิด ค้นสิ่งประดิษฐ์นวัตกรรมใหม่ในด้านชีวภาพเพื่อความเหมาะสมกับสิ่งแวดล้อม ทางกฟผ. ยินดีให้ความร่วมมือกับสถานศึกษาสังกัด สอศ.โดยความ ร่วมมือนี้นำไปสู่การขยายองค์ความรู้สู่ชุมชนต่อไป ซึ่งมีระยะเวลาความร่วมมือ 3 ปี
โอกาสนี้ยังมอบรางวัลชนะเลิศผลการดำเนินงานโครงการชีววิถีเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน ระดับประเทศ ประจำปี 2555 ประเภทที่ 1 การดำเนินการในวิทยาลัย ได้แก่วิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีสระแก้วประเภทที่ 2 วิทยาลัยขยายผลสู่ชุมชนดีเด่นได้แก่ วิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีนครสวรรค์ประเภทที่ 3 นักศึกษาปัจจุบันในระบบนำไป ใช้ได้ผล ได้แก่ นายนิยม ก้องพัฒนาไพรสณฑ์ นักศึกษาวิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีเชียงใหม่ ประเภทที่ 4 ราษฎรนำความรู้ที่ได้รับจากวิทยาลัยไปใช้ และได้ผลดีเยี่ยม นางสาวจุไรรัตน์ เพ่งพิศ เกษตรกรต.วังมะ ปรางเหนือ อ.วังวิเศษ จ.ตรัง โดยวิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีตรัง ประเภทที่ 5 ชุมชนที่ได้รับความรู้และใช้ได้ ผลดีเยี่ยมได้แก่ ชุมชนบ้านห้วยแดง ต.ฝางคำ อ.สิรินธรจ.อุบลราชธานี โดยวิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีอุบลราชธานี ประเภทที่ 6 โรงเรียนที่ได้รับการขยายผลจากวิทยาลัยและใช้ได้ผลดีเยี่ยม ได้แก่ โรงเรียนบ้านท่าล้ง อ.โขงเจียม จ.อุบลราชธานี โดยวิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีอุบลราชธานี ประเภทที่ 7 การคิดค้นสิ่งประดิษฐ์ ได้แก่ ถังหมักอีเอ็มสะดวกใช้ โดยวิทยาลัยเกษตร และเทคโนโลยีมหาสารคามและประเภทที่ 8 งานวิจัยและนวัตกรรมในโครงการชีววิถีฯ ได้แก่ การใช้อาหารสูตรต่างกันผสมจุลินทรีย์ ที่มีประสิทธิภาพ (EM)ในการเพาะเลี้ยงไรแดง โดยวิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีสุพรรณบุรี

ที่มา: หนังสือพิมพ์สยามรัฐ

http://www.moe.go.th/moe/th/news/detail.php?NewsID=32936&Key=hotnews