ศธ.เร่งนำร่องกระจายอำนาจเริ่มพ.ค.นี้

4 มกราคม 2550

ศ.ดร.วิจิตร ศรีสอ้าน รมว.ศึกษาธิการ เปิดเผยผลการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในส่วนที่เกี่ยวกับกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เมื่อวันที่ 3 ม.ค.ว่า ครม.ได้ให้ความเห็นชอบร่างกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการกระจายอำนาจการบริหาร ตามที่ ศธ.เสนอ โดยมีสาระสำคัญ ได้แก่ ให้มีการกระจายอำนาจการบริหารและการจัดการศึกษาทั้งด้านวิชาการ งบประมาณ การบริหารงานบุคคล และการบริหารทั่วไปไปยังคณะกรรมการและสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา (สพท.) และสถานศึกษาในเขตพื้นที่การศึกษาโดยตรง ซึ่งแบ่งสถานศึกษาออกเป็น 2 ประเภท ได้แก่ ประเภทที่ 1. สถานศึกษาที่มีจำนวน นักเรียนตั้งแต่ 500 คนขึ้นไป และมีผลการประเมินคุณภาพการศึกษาจากสำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา (สมศ.) ทุกมาตฐานในระดับดี รวมทั้งมีความพร้อมในการบริหารและการจัดการศึกษา และประเภทที่ 2. สถานศึกษาที่ได้รับการสนับสนุนเป็นพิเศษและให้รวมถึงกลุ่มเครือข่ายสถานศึกษาที่สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาจัดกลุ่มตั้งแต่ 2 แห่งขึ้นไป เพื่อให้สามารถรองรับการกระจายอำนาจการบริหารและการจัดการศึกษาได้ ทั้งนี้กำหนดให้สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ประกาศรายชื่อสถานศึกษาประเภทที่ 1 ภายใน 180 วัน นับตั้งแต่วันที่กฎกระทรวงมีผลบังคับใช้ ส่วนการกระจายอำนาจการบริหารและการจัดการศึกษาในสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) และสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) ให้เป็นไปตามกฎหมายของหน่วยงาน

รมว.ศึกษาธิการ กล่าวต่อไปว่า การกระจายอำนาจการบริหารและการจัดการศึกษาให้ส่วนราชการยึดหลักการ ได้แก่ ยึดหลักเอกภาพด้านมาตรฐานและนโยบายด้านการศึกษา, มีความเป็นอิสระและความคล่องตัวในการบริหารและการจัดการศึกษา รวมทั้งขีดความสามารถและความรับผิดชอบของผู้รับการกระจายอำนาจ, มุ่งเน้นการมีส่วนร่วมของชุมชนและผู้มีส่วนได้เสียในพื้นที่, มุ่งให้เกิดผลสำเร็จอยู่ที่สถานศึกษาโดยเน้นให้สถานศึกษามีความเข้มแข็งเพิ่มความคล่องตัวให้การดำเนินการกระจายอำนาจทั้ง 4 ด้านไปยังสถานศึกษามากที่สุด, เพิ่มคุณภาพและประสิทธิภาพให้แก่สถานศึกษา และมอบหมายให้ผู้มีหน้าที่รับ ผิดชอบในการดำเนินการเป็นผู้ตัดสินใจในเรื่อง นั้น ๆ โดยตรง

“หลังจากนี้จะมีการจัดส่งร่างให้คณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจร่างกฎกระทรวงดังกล่าว และผมจะลงนามเพื่อให้มีผลใช้บังคับได้ในเร็ว ๆ นี้ เพื่อรองรับการนำร่องการกระจายอำนาจไปยัง สพท. และสถานศึกษา 600 โรง ให้ทันในเดือนพฤษภาคม นี้” ศ.ดร.วิจิตร กล่าว.

แหล่งที่มา/ผู้ส่ง ที่มา: http://www.dailynews.co.th

moe.go.th/moe/th/news/detail.php?NewsID=2340&Key=hotnews

Leave a Comment