ศธ.เร่งสอบสวนวินัยร้ายแรงอาจารย์ มอบ. ล่วงละเมิดทางเพศนักศึกษาหญิง

7 กรกฎาคม 2551

รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ สั่งเร่งสอบสวนวินัยร้ายแรงอาจารย์มหาวิทยาลัยอุบลราชธานีล่วงละเมิดทางเพศนักศึกษาหญิงทั้งคดีเก่าและคดีใหม่ คาดแล้วเสร็จภายใน 7-8 วัน  ขณะที่มีนักศึกษากว่า 20 ราย ร้องเรียนว่าถูกล่วงละเมิดทางเพศ

นายบุญลือ  ประเสิรฐโสภา รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวถึงความคืบหน้ากรณีผู้ช่วยศาสตราจารย์จักรฤทธิ์  อุทโธ อาจารย์ภาควิชาศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี ล่วงละเมิดทางเพศ นักศึกษาทั้งชายและหญิงเพื่อแลกเกรด ซึ่งเคยถูกร้องเรียนหลายครั้งแต่ไม่มีหลักฐานเอาผิด ว่า ขณะนี้ผู้บริหารมหาวิทยาลัยอุบลราชธานี ได้ตั้งคณะกรรมการขึ้นสอบสวนวินัยร้ายแรงผู้ช่วยศาสตราจารย์จักรฤทธิ์ แล้ว โดยผู้ช่วยศาสตราจารย์จักรฤทธิ์ มีสิทธิ์ชี้แจงข้อกล่าวหาภายใน 15 วัน อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้ได้สั่งการให้ทางมหาวิทยาลัยอุบลราชธานี เร่งดำเนินการสอบสวนวินัยร้ายแรงให้แล้วเสร็จโดยเร็ว คาดว่าภายใน 7 – 8 วัน น่าจะได้ข้อสรุป นอกจากนั้น ทราบว่าผู้ช่วยศาสตราจารย์จักรฤทธิ์ มีคดีที่ถูกร้องเรียนค้างเก่าอีก 2 คดี ซึ่งได้ให้คณะกรรมการสอบสวนวินัยฯ สอบสวนข้อเท็จจริงไปในคราวเดียวกัน โดยเฉพาะในกรณีที่ผู้ปกครองนักศึกษาหญิงอีกรายนำหลักฐานเข้าแจ้งความเพิ่มเติมว่าถูกผู้ช่วยศาสตราจารย์จักรฤทธิ์ กระทำอนาจารตั้งแต่ปลายปี 2550 ผ่านมานานถึง 7 เดือนแล้วแต่เรื่องเงียบหาย ทั้งที่ผู้ช่วยศาสตราจารย์จักรฤทธิ์ ก็ลงชื่อรับสารภาพต่อคณะกรรมการสอบสวนแล้ว แต่อธิการบดีกลับไม่ดำเนินการทางวินัย ซึ่งเรื่องนี้ ต้องขอรอฟังข้อมูลจากคณะกรรมการสอบสวนวินัยฯ ก่อน หากเป็นเรื่องจริง อธิการบดี ก็ต้องมีความผิดฐานปล่อยปละละเลย และจะต้องประสานกับทางสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) ดำเนินการตั้งคณะกรรมการสอบสวนฯ อธิการบดีมหาวิทยาลัยอุบลราชธานี อีกทางหนึ่งด้วย

ด้านนายสุเมธ  แย้มนุ่ม เลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา กล่าวว่า มีนักศึกษากว่า 20 รายร้องเรียนผ่านเว็บไซต์ www.mua.go.th/clean ถึงพฤติกรรมของอาจารย์ที่ไม่เหมาะสม โดยมีทั้งที่ถูกกระทำเองและเห็นอาจารย์กระทำกับบุคคลอื่น ตลอดจนนักศึกษาที่ออกไปฝึกงานข้างนอกแล้วถูกบุคลากรของหน่วยงานดังกล่าวล่วงละเมิดทางเพศ ทั้งนี้ ตนเองยังไม่ขอให้รายละเอียด เพราะต้องตรวจสอบก่อนว่ามีมูลความจริงหรือไม่ ซึ่งคาดว่าจะใช้เวลาตรวจสอบแต่ละกรณีประมาณ 1 เดือน

แหล่งที่มา/ผู้ส่ง สำนักข่าว กรมประชาสัมพันธ์

http://www.moe.go.th/moe/th/news/detail.php?NewsID=2427&Key=hotnews

Leave a Comment