ไขข้อสงสัย “โครงการอาคารศูนย์พัฒนาครูฯ” มุ่งหวังเพื่อสวัสดิการเพื่อนครู

29 มีนาคม 2556

สกสค.ไขข้อสงสัย “โครงการอาคารศูนย์พัฒนาครูฯ” มุ่งหวังเพื่อสวัสดิการเพื่อนครู

นับเป็นอีกโครงการหนึ่งของสำนักงานคณะกรรมการ ส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา(สกสค.)สำหรับ”การก่อสร้างอาคารศูนย์พัฒนาครูและบุคลากรทางการศึกษาภาคเหนือ จ.เชียงใหม่” บริเวณถนนหัสดิเสวี ตำบลช้างเผือก อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ มูลค่าหลายร้อยล้านบาท ที่สกสค.มุ่งหวังให้เป็นศูนย์กลางการให้สวัสดิการด้านที่พักแก่ครูและบุคลากรทางการศึกษา และเพื่อเป็นศูนย์กลางการประชุม สัมมนา ฝึกอบรมแก่ครูและบุคลากรทางการศึกษา ตลอดจน หน่วยงานทางการศึกษาที่เกี่ยวข้อง

การก่อสร้างอาคารศูนย์พัฒนาฯ ที่ได้ดำเนินการมาระยะหนึ่งแล้วนั้นได้กลายเป็นประเด็นข้อสงสัยต่างๆ โดย นายวัฒนา วรรณโสภา รองเลขาธิการสกสค. ระบุว่าโครงการก่อสร้างอาคารศูนย์พัฒนาฯ แห่งนี้มีจำนวน 7 ชั้น มีพื้นที่ประมาณ 15,811 ตารางเมตร ประกอบด้วย ห้องพัก 300 ห้อง ห้องประชุมใหญ่ ห้องโถงต้อนรับ ห้องโถงจัดเลี้ยง ที่จอดรถยนต์และ ห้องเครื่อง โดยดำเนินการการก่อสร้างตามงบประมาณ 499 ล้านบาท และในปีที่ผ่านมาได้เปิดให้มีการประมูลผ่านระบบ อิเล็กทรอนิสก์หรืออีอ๊อกชั่นส์ โดยบริษัทเอกค้าไทยชนะการประมูลในครั้งนั้นด้วยราคาประมาณ 360 ล้านบาท และได้ลงมือดำเนินการก่อสร้างด้วยการเริ่มปรับพื้นดินและการลงเสาเข็มบริเวณการก่อสร้างในช่วงของคณะกรรมการ สกสค.ชุดเก่าที่มีนายเกษม กลั่นยิ่ง เป็นเลขาธิการ สกสค. ซึ่งมีคณะกรรมการอำนวยการการก่อสร้าง และคณะกรรมการตรวจการจ้างเข้ามาดูแล รวมทั้งสกสค.ได้ว่าจ้างให้สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) มาเป็นที่ปรึกษาควบคุมการก่อสร้าง
“สจล.ได้เข้ามาตรวจดูโครงการนี้และมีความเห็นเสนอมาว่า การก่อสร้างอาคารขนาดใหญ่ 7 ชั้นแห่งนี้ ควรจะต้องเพิ่มชั้นอาคารที่จอดรถ อีก 2 ชั้น เพราะไม่เช่นนั้น แล้วหากมีการเข้ามาพักและประชุม สัมมนาและฝึกอบรมของครูอาจจะไม่เพียงพอ ทำให้ต้องนำเรื่องนี้เสนอพิจารณาในที่ประชุมคณะกรรมการ สกสค.สมัยนายเกษมอีกครั้งหนึ่ง เนื่องจากการจะเปลี่ยนแปลงการก่อสร้างเพิ่มเติมเป็นอำนาจของที่ประชุม คณะกรรมการ สกสค.แต่เนื่องจากช่วงนั้นเป็นรอยต่อที่คณะกรรมการ สกสค.ชุดเก่าจะหมดวาระแล้วจึงมีการให้รอเสนอใน คณะกรรมการ สกสค.ชุดใหม่ และ นายเกษมเองก็หมดวาระไปด้วยในช่วงนั้น ทำให้ได้นำเสนอต่อคณะกรรมการ สกสค.ชุดใหม่พิจารณาเมื่อวันที่ 27 ธันวาคม 2555และได้มีมติให้ดำเนินการก่อสร้างโดยเพิ่มการก่อสร้างจำนวน 7 รายการตามที่เสนอขออนุมัติไป 15 รายการ ตามที่สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหาร ลาดกระบังโดยไม่ได้เพิ่มงบประมาณการก่อสร้างแต่อย่างใด ส่วนการเสนอให้ เพิ่มชั้นอาคารอีกสองชั้นเพื่อใช้เป็น ที่จอดรถนั้น ไม่ได้รับการอนุมัติ ”

หลังจากนั้น สกสค.ได้ทำหนังสือแจ้งไปยังบริษัทเอกค้าไทยเพื่อให้ ทราบถึงมติของที่ประชุมคณะกรรมการ สกสค.ที่ให้ดำเนินการก่อสร้างและทาง บริษัทฯ ได้ทำหนังสือแจ้งกลับมายังสกสค.ว่าวันที่ 28 มกราคม 2556 ทางบริษัทจะดำเนินการตามมติดังกล่าว ซึ่งเนื่องจากช่วงนั้นได้เกิดน้ำท่วมบริเวณพื้นที่ก่อสร้างและทางบริษัทฯ ได้เข้าไปสำรวจและได้ทำการสูบน้ำออกจากบริเวณที่มีการตอกเสาเข็มและตากหน้าดินให้แห้ง รวมทั้งสำรวจว่าเสาเข็ม ที่ถูกน้ำแช่ขังอยู่มีความแข็งแรงหรือไม่ จนกระทั่งวันที่ 15 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา คณะกรรมการอำนวยการการก่อสร้าง และคณะกรรมการตรวจการจ้าง เพื่อเร่งรัดในการดำเนินงานให้เป็นไปตามแผน บริษัทฯ และสจล.ได้ลงพื้นที่ไปดูหน้างานการก่อสร้าง จนล่าสุดได้ประชุมหารือกันมีมติให้บริษัทฯ ทำแผนงานต่างๆ เสนอคณะกรรมการอำนวยการการก่อสร้าง และคณะกรรมการตรวจการจ้าง จนกว่าจะสิ้นสุดสัญญาการก่อสร้างในเดือนธันวาคม 2556 saleยุ้ย aw/ปอ”ที่มีการพูดกันอยู่บ่อยๆ ว่าโครงการนี้มีการดำเนินการไม่โปร่งใส ส่อไปในทางทุจริตรวมถึงการฮั้วประมูล ในฐานะตัวแทน สกสค. ขอเรียนว่าสกสค. ได้ดำเนินการด้วยความโปร่งใส สามารถตรวจสอบได้ทุกขั้นตอน ขณะนี้ การเบิกเงินงวดแรกก็ยังไม่ได้เบิกสักบาทเลย และที่มีผู้ออกมาระบุว่ามีการลงนามสัญญาการก่อสร้างใหม่ก็ไม่เป็นความจริงเพราะไม่ได้ลงนามสัญญาอะไรใหม่เลยใช้สัญญาเดิม และไม่ได้เริ่มสัญญาใหม่ตั้งแต่วันที่ 28 มกราคม ส่วนที่มีการร้องเรียนไปยังกรมสอบสวนคดีพิเศษหรือดีเอสไอ ทำให้ สกสค. ไม่สบายใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น ซึ่งทางดีเอสไอได้ลงพื้นที่ตรวจสอบที่ จ.เชียงใหม่และ ได้เข้าไปสอบถาม ตรวจสอบสัญญาเงื่อนไขต่างๆ โดยได้ทำหนังสือแจ้งมายัง สกสค.วันที่ 8 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ระบุว่าจากการสืบสวนกรณีการก่อสร้างอาคารศูนย์พัฒนาฯ ยังไม่ปรากฎข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานว่าการจัดจ้างมีลักษณะเข้าข่ายความผิดตามพ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ.2542 หรือขัดต่อระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการพัสดุ พ.ศ.2535 และแก้ไขเพิ่มเติม ดังนั้นดีเอสไอ จึงได้ยุติเรื่อง อนึ่งเพื่อให้เกิดประโยชน์อย่างสูงสุดและเป็นไปตามระเบียบ ข้อบังคับจึงขอให้สกสค.เร่งรัดบริหาร จัดจ้างโครงการก่อสร้างอาคารศูนย์พัฒนาฯให้เป็นไปตามสัญญาต่อไป ซึ่งแสดงว่าให้ดำเนินการได้ต่อไป ทั้งนี้การที่มีหน่วยงาน และบุคคลเข้ามาตรวจสอบเรื่องนี้นั้นสกสค.ไม่ขัดข้องเพราะทุกอย่างดำเนินการถูกต้องตามขั้นตอนต่างๆ ไม่ได้ผิดเงื่อนไขอะไรแต่ความล่าช้าที่เกิดขึ้นในการก่อสร้างในช่วงที่ผ่านมาเพราะต้องรอคณะกรรมการ สกสค.ชุดใหม่เท่านั้นเองและความเสียหายต่างๆ ก็ไม่มี”
อย่างไรก็ตาม สกสค.มีความมุ่งหวัง และมุ่งมั่นในการเดินหน้าโครงการก่อสร้างอาคารศูนย์พัฒนาฯ ต่อไปเพื่อจุดมุ่งหมายของการจัดสวัสดิการให้แก่เพื่อนครูและบุคลากรทางการศึกษาอย่างดีที่สุด

ที่มา: หนังสือพิมพ์มติชน

http://www.moe.go.th/moe/th/news/detail.php?NewsID=32296&Key=hotnews

 

Leave a Comment