cheat

การศึกษาไทย เรียนให้ตาย ก็สู้เลียไม่ได้

การศึกษาไทย เรียนให้ตาย ก็สู้เลียไม่ได้
การศึกษาไทย เรียนให้ตาย ก็สู้เลียไม่ได้

สี่วาทะการศึกษา .. วันนี้
การศึกษาไทย เรียนให้ตาย ก็สู้เลียไม่ได้
การศึกษาไทย เรียนให้ตาย ก็สู้ขาวไม่ได้
การศึกษาไทย เรียนให้ตาย ก็สู้เส้นไม่ได้
การศึกษาไทย เรียนให้ตาย ก็สู้ทุจริตไม่ได้” (คนโกงเขาเชื่ออย่างนั้น)
จากเพลงเรียนและงาน
http://www.youtube.com/watch?v=EDw98E7Lh0o

15 มิ.ย.56 นักเรียน ม.4 มีวาทะว่า “การศึกษาไทย เรียนให้ตาย ก็สู้เลียไม่ได้
ในโครงการสมัชชาการศึกษา ครั้งที่ 2 โดยเครือข่ายยุวทัศน์ กรุงเทพมหานคร
ที่ได้รับการสนับสนุนจาก
สำนักงานส่งเสริมสังคมแห่งการเรียนรู้และคุณภาพเยาวชน (สสค)
และกระทรวงศึกษาธิการ ณ โรงแรมบางกอกชฎา กรุงเทพมหานคร
https://www.facebook.com/quotequotequote/posts/552626601494322
https://www.facebook.com/EducationReview/photos/a.519999038069381.1073741828.519774391425179/563846200351331/

24 มี.ค.57 เป็นที่มาของวาทะ “การศึกษาไทย เรียนให้ตาย ก็สู้ขาวไม่ได้
ขำขำนะครับ เพราะผมเห็นโฆษณาของโฮโม
ที่เจ้านายเลือกไม่ได้เลือกจากความรู้ความสามารถแต่เลือกจากความขาว
มีคลิ๊ปหัวหน้าเลือกนักข่าวจากสีเสื้อ สืบค้นยังไม่พบ
http://www.youtube.com/watch?v=8aVjfSnwRvc

6 มี.ค.56 เป็นที่มาของวาทะ “การศึกษาไทย เรียนให้ตาย ก็สู้ทุจริตไม่ได้
จากที่ คุณสรยุทธ พูดคุยกับ นายธานินทร์ เปรมปรีดิ์
รองผู้อำนวยการสำนักคดีอาญาพิเศษ กรมสอบสวนคดีพิเศษ
เรื่องทุจริตครูผู้ช่วย มีประเด็นหลายข้อ
1. ส่งมือปืน คนนั่งหน้าหลัง
2. ใช้เครื่องมือสื่อสารเข้าห้องสอบ
3. ข้อสอบรั่ว เอาโพยเข้าห้องสอบ
ค่าจ้างสำหรับการทุจริต ประมาณ 300,000 – 500,000 บาท
จากกรณีที่พบทุจริตการสอบบรรจุเป็นข้าราชการ ตำแหน่งครูผู้ช่วย
มีคนได้คะแนนเต็มถึง 480 คน
http://education.kapook.com/view58020.html
http://www.youtube.com/watch?v=0mk3P-zfgRo

ล้อมคอกนักศึกษาลอกข้อสอบด้วยหมวกกระดาษ

ไม่คิดว่าจะเป็นจริงในสังคมปัจจุบัน
อ่านแล้วก็ยังไม่เชื่อว่าจะมี อาจารย์ที่ไหนคิดว่าวิธีนี้ได้ผล
เพราะใครเห็นก็ต้องทราบว่า
ผลทางตรงของวิธีนี้ไม่อาจป้องกันการลอกข้อสอบได้จริง
แต่ถ้าเป็นผลทางอ้อมก็ไม่แน่ โดยใช้หลักจิตวิทยา เพื่อปรามไม่ให้กระทำ

 

หมวกกระดาษ กัน ลอกข้อสอบ
หมวกกระดาษ กัน ลอกข้อสอบ

บรรยากาศแปลกตาที่เกิดขึ้นในห้องสอบคณะอุตสาหกรรมเกษตร (อก.) มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ถูกเผยแพร่ส่งต่อในสังคมออนไลน์ตลอดวันที่ 14 ส.ค.2556

นักศึกษาร่วม 100 ชีวิต ซึ่งถูกแบ่งออกเป็นแถวๆ มีพื้นที่ว่างกั้นระหว่างกัน กำลังก้มหน้าก้มตาจับจดอยู่กับการทำข้อสอบ บนหัวทุกรายมีสิ่งหนึ่งผิดแผกแปลกไปจากสภาพปกติ นั่นก็คือ “แผ่นกระดาษ”

ผู้เข้าสอบทุกรายถูกสั่งให้สวม “หมวกกระดาษ (Paper Hat)” ซึ่งมีลักษณะเป็นกระดาษขาวเย็บต่อกันเป็นวงสำหรับสวมจากด้านบน ซ้ายขวามีแผ่นกระดาษขาวห้อยลงมาคอยเบียดบังทัศนะวิสัย เป้าประสงค์หลักคือป้องกันไม่ให้ผู้เข้าสอบทำการทุจริตในห้องสอบได้

ทันทีที่ภาพถูกเผยแพร่ มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์หลากหลายแตกต่าง มุมหนึ่งสนับสนุนว่าเป็นสิ่งดี อาจารย์น่าชมเชยเพราะสามารถประดิษฐ์นวัตกรรมจากภูมิปัญญาง่ายๆ แต่ใช้แก้ปัญหาได้จริง อีกมุมหนึ่งเห็นต่าง มองว่าเป็นการกระทำที่เกินพอดี และเป็นการหยามเกียรติภูมินักศึกษา

วุฒิชัย กปิลกาญจน์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ (มก.) บอกกับโพสต์ทูเดย์ว่า แม้จะยังไม่ทราบถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่พร้อมจะเร่งตรวจสอบข้อเท็จจริงอย่างถึงที่สุด

ขณะที่ อาจารย์คณะอุตสาหกรรมเกษตร รายหนึ่ง ยอมรับกับโพสต์ทูเดย์ตรงๆ ว่า สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องจริง เป็นมาตรการที่ใช้ระหว่างจัดสอบจริง แต่ขณะนี้ยังไม่สามารถให้รายละเอียดมากกว่านี้ได้ จำเป็นต้องหารือกันภายในก่อน อย่างไรก็ดียืนยันว่าเมื่อได้ข้อสรุปจะเร่งชี้แจงอย่างเร็วที่สุดแน่นอน

ด้าน เกษียร เตชะพีระ คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ได้โพสต์รูปดังกล่าวและแสดงความคิดเห็นผ่านเฟซบุ๊กKasian Tejapiraw ว่า ผมเกรงว่าต่อให้สอบผ่านทั้งห้องก็ล้มเหลว

อาจารย์เกษียร ขยายความว่า อนาถใจนะครับ ยิ่งกว่าการสอบของเด็กนักเรียนซะอีก ถ้าเราต้องใช้วิธีนี้ในห้องสอบ ก็แสดงว่าการศึกษาล้มเหลวแล้ว ไม่ว่าจะสอบผ่านหรือไม่ก็ตาม ล้มเหลวแล้วต่อให้สอบผ่านทั้งห้องก็ตาม

นั่นเพราะพวกเขาซึ่งเป็นผลผลิตบุคลากรจากระบบการศึกษาได้กลายเป็นคน ที่ถูกปฏิบัติต่อสเมือนหนึ่งไม่อาจไว้วางใจได้ว่าจะทำสิ่งสุจริตโดยสมัครใจ ทำไมจึงเป็นเช่นนั้น? การติดกระดาษบังรอบหัวได้แตะเข้าไปถึงมูลเหตุของความล้มเหลวหรือ?

สังศิต พิริยะรังสรรค์ คณบดีวิทยาลัยนวัตกรรมสังคม มหาวิทยาลัยรังสิต ส่องปรากฏการณ์นี้ว่า มหาวิทยาลัยไม่น่าจะทำถึงเพียงนี้ เป็นสิ่งที่มากเกินความจำเป็น และภาพที่เผยแพร่ออกมาสร้างความเสียหายทั้งกับตัวมหาวิทยาลัยเอง และหากหลุดออกไปให้ชาวต่างชาติเห็น เขาจะยิ่งหัวเราะและมองว่าการศึกษาไทยล้าหลัง ภาพที่ออกมาคือความล้มเหลว

ปัญหาคือระบบโบราณ เป็นการสอบที่ให้นักศึกษาจำแต่ไม่ให้คิดวิเคราะห์ นี่จึงเป็นส่วนหนึ่งให้นักศึกษาขาดจินตนาการ แม้สอบผ่านเรียนจบออกมาก็คิดอะไรไม่ได้ สุดท้ายก็โง่ ดังนั้นต้องสอนให้นักศึกษาคิด ให้อภิปราย เมื่อสอบก็เป็นลักษณะปัจเจก ไม่ต้องกังวลว่าจะมาลอกกันอาจารย์สังศิต ระบุ

http://www.posttoday.com/%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B9%80%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%B0%E0%B8%AB%E0%B9%8C/%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B8%87%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%9E%E0%B8%B4%E0%B9%80%E0%B8%A8%E0%B8%A9/240644/%E0%B8%9E%E0%B8%B4%E0%B8%A5%E0%B8%B6%E0%B8%81-%E0%B8%A5%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%A1%E0%B8%84%E0%B8%AD%E0%B8%81%E0%B8%99%E0%B8%A8-%E0%B8%A5%E0%B8%AD%E0%B8%81%E0%B8%AA%E0%B8%AD%E0%B8%9A%E0%B8%84%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%A5%E0%B9%89%E0%B8%A1%E0%B9%80%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B8%A7%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%88%E0%B8%B1%E0%B8%9A%E0%B8%95%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B9%84%E0%B8%94%E0%B9%89

เมื่อเช้าแชร์เรื่องใช้กล่องคลุมหัว เพราะไม่คิดว่าจะมีจริงในโลก
ยิ่งหมวกกระดาษยังไม่สามารถป้องกันได้เลย หากผู้กระทำมีเจตนาอยู่แล้ว
http://www.thaiall.com/blog/burin/5433/

 

อธิการบดีปัดแก้เกรดให้ลูก

อธิการบดีสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง ปัดแก้เกรดให้ลูก บอกถ้าแก้ได้คงแก้ให้ได้เยอะกว่านี้ เชื่อเป็นเรื่องการเมืองภายใน เนื่องจากเป็นช่วงปรับเปลี่ยนตำแหน่ง ขู่เล่นงานกลับให้ถึงที่สุด
http://education.kapook.com/view67041.html

หลังจากที่ก่อนหน้านี้มีข่าวว่าอาจารย์และนักศึกษา มหาวิทยาลัยชื่อดังแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ เข้ายื่นหนังสือถึง นายอภิชาติ จีระวุฒิ เลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา (กกอ.) สั่งสอบอธิการบดี หลังสั่งแก้เกรดให้กับบุตรชายของตนเองอย่างไม่ถูกต้องจำนวน 8 รายวิชา ประจำปีการศึกษา 1/2555 ตามที่ได้รายงานข่าวไปนั้น
23 กรกฎาคาม 2556 นายถวิล พึ่งมา อธิการบดีสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) กล่าวชี้แจงกรณีดังกล่าวว่า เรื่องนี้เกิดขึ้นตั้งแต่ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2555 ก่อนที่เข้ามาเป็นอธิการบดี โดยตนเข้ามารับตำแหน่งช่วงเดือนสิงหาคม 2555 นับถึงวันนี้เป็นเวลาประมาณ 10 เดือน ส่วนตัวเชื่อว่าเป็นการเมืองภายใน เพราะมีการร้องเรียนมานานแล้ว
โดยทางสภาสถาบันได้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง พบว่ามีการแก้ไขเกรดวิชาภาษาอังกฤษ และได้เชิญตนไปสอบปากคำ มีผลสรุปออกมาแล้วว่า มีการแก้เกรดในวิชาดังกล่าวจริง แต่ยังไม่สรุปว่าเกิดจากความผิดพลาดประการใด และจากการสอบสวนสรุปว่าตนไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้อง จึงได้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงผู้ที่เกี่ยวข้อง ทั้งฝ่ายทะเบียน ผู้ดูแลระบบคอมพิวเตอร์ และหัวหน้าสาขา ซึ่งเป็นรองอธิการบดี ขณะนี้อยู่ระหว่างการสอบสวน

ทั้งนี้ ตามระบบการแก้เกรดของ สจล. ไม่ใช่เรื่องง่ายและไม่ใช่จะแก้ได้คนเดียว จะต้องมีผู้เกี่ยวข้องอย่างน้อย 2 ฝ่าย คืออาจารย์ผู้สอนและฝ่ายทะเบียน ถ้าจะเข้าไปแก้เกรดของนักศึกษาได้ ต้องมีทั้งรหัสของฝ่ายทะเบียนและรหัสประจำตัวของอาจารย์ผู้สอน จะใช้เพียงฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งไม่ได้ ต้องใช้รหัสของทั้งสองคน จึงจะสามารถเข้าไปแก้เกรดให้นักศึกษาได้ ดังนั้นถึงแม้ตนเป็นอธิการบดีก็ไม่สามารถแก้เกรดให้ใครได้เพราะไม่มีรหัสดังกล่าว ถ้าจะแก้ให้ลูกจริง ๆ คงแก้ให้ได้เกรดมากกว่านี้
ส่วนที่ระบุว่าตนเพิกเฉยไม่ดำเนินการใด ๆ เมื่อทางอาจารย์ผู้สอนร้องเรียนว่าเกรดของลูกชายตนมีความผิดพลาดนั้น ไม่เป็นความจริง เพราะทันทีที่เห็นการร้องเรียน ได้มีคำสั่งไปว่า ขอให้แก้ไขให้เป็นเกรดที่ถูกต้องทันที หากสภาสถาบันสรุปว่าตนไม่มีความผิดตามที่ถูกกล่าวหา และรู้ตัวชัดเจนว่าใครเป็นผู้ดำเนินการดังกล่าว จะดำเนินการตามกฎหมายอย่างถึงที่สุด
นอกจากนี้ นายถวิล กล่าวด้วยว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องการเมืองภายในสถาบัน คนที่ร้องน่าจะเป็นผู้บริหารจากกลุ่มอำนาจเก่า ซึ่งในเดือนตุลาคมนี้จะมีผู้บริหารระดับคณบดีและผู้อำนวยการวิทยาลัย ประมาณ 7 คนหมดวาระ และเขาคงเกรงว่าถ้าตนยังเป็นอธิการบดีอยู่ จะไม่ได้อยู่ในตำแหน่งระดับบริหารต่อไปอีก
+ http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1374580565&grpid=00&catid=00

politic or cheat
politic or cheat

อธิการบดี ม.ดังแก้เกรดให้ลูกชาย 8 วิชา นายกสถาบัน สั่งตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงใหม่ หลังเคยสอบแล้วเป็นเรื่องจริง
+ http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1374556431&grpid=&catid=19&subcatid=1903
เมื่อวันที่ 22 กรกฎาคม 2556 แหล่งข่าวระดับสูงจากสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) เปิดเผยว่า เมื่อเร็วๆ นี้ กลุ่มผู้บริหาร คณาจารย์ จากมหาวิทยาลัยในกำกับของรัฐ ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยชื่อดังแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ เข้ายื่นหนังสือถึงนายอภิชาติ จีระวุฒิ เลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา (กกอ.) และนายพงศ์เทพ เทพกาญจนา รองนายกรัฐมนตรี ขณะดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ถึงพฤติการณ์ที่ไม่ชอบด้วยจรรยาบรรณอาจารย์ และอาจเข้าข่ายกระทำผิดวินัยร้ายแรง ในกรณีการแก้ไขเกรดของนักศึกษาอย่างไม่ถูกต้อง ไม่เป็นธรรม
แหล่งข่าวกล่าวว่า ใจความในหนังสือระบุว่า ขอร้องเรียนพฤติการณ์ที่ไม่ชอบด้วยจรรยาบรรณอาจารย์ และอาจเข้าข่ายการกระทำผิดวินัยร้ายแรง ในกรณีที่มีการแก้ไขเกรดอย่างไม่ถูกต้อง ตามข้อบังคับของมหาวิทยาลัยทั้งหมด 8 รายวิชา ประจำปีการศึกษา 1/2555 ของนาย ก. (นามสมมุติ) รหัสนักศึกษา 55xxxxxx นักศึกษาชั้นปีที่ 1 ซึ่งเป็นบุตรชายอธิการบดีของมหาวิทยาลัยชื่อดังแห่งนี้ โดยมีรายละเอียดแต่ละวิชา ดังนี้

1. วิชาภาษาอังกฤษพื้นฐาน 1 ภาคเรียนที่ 1/2555 เป็นการแก้ไขเกรดจาก D ให้เป็น B “กลุ่มผู้สอนวิชาภาษาอังกฤษพื้นฐาน 1 ทราบเรื่องนี้เนื่องจากมีนักศึกษาคนหนึ่งส่งบันทึกคำร้องขอให้สาขาวิชาที่เกิดปัญหาตรวจสอบคะแนนรายวิชาพื้นฐานภาษาอังกฤษพื้นฐาน 1 ภาคการศึกษาที่ 1/2555 และเมื่อกลุ่มอาจารย์ผู้สอนวิชาภาษาอังกฤษได้ตรวจทานคะแนนการสอบกลางภาค และคะแนนปลายภาค วิชาภาษาอังกฤษพื้นฐาน 1 ของนักศึกษาคณะที่เกิดปัญหาทั้งหมด จึงพบว่า คะแนนกลางภาค ปลายภาค และเกรดของนาย ก. ที่ปรากฏอยู่ในระบบฐานข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ของสำนักทะเบียนและประมวลผลของมหาวิทยาลัย ไม่ตรงกับคะแนนซึ่งเป็นเอกสารที่มีลายมือชื่อของคณะกรรมการผู้จัดทำคะแนน ที่ส่งจากสาขาวิชาที่เกิดปัญหา ไปยังสำนักทะเบียน โดยใบเกรดของสาขาวิชาที่เกิดปัญหาเป็น D แต่เกรดในระบบฐานข้อมูลของสำนักทะเบียนเป็น B และไม่มีอาจารย์ผู้จัดทำคะแนนคนใดเป็นผู้ดำเนินการ รับรู้ หรือรับทราบในการแก้ไขเกรดดังกล่าว” หนังสือร้องเรียนระบุ
หนังสือร้องเรียนระบุอีกว่า วันที่ 27 พฤศจิกายน 2555 คณาจารย์กลุ่มวิชาภาษาอังกฤษได้ส่งเรื่องขอให้คณบดีดำเนินการหาข้อเท็จจริงในเรื่องที่เกิดขึ้น ซึ่งคณบดีได้รายงานเรื่องดังกล่าวถึงอธิการบดีของมหาวิทยาลัยแห่งนี้ เพื่อสั่งการให้สำนักทะเบียนแก้ไขเกรดของนาย ก. ให้ถูกต้อง และขอให้มหาวิทยาลัยดำเนินการสอบสวนข้อเท็จจริงดังกล่าว แต่ไม่ปรากฏเอกสารว่าอธิการบดีได้สั่งให้ดำเนินการแต่อย่างใด
แหล่งข่าวกล่าวอีกว่า
2. วิชา ENGINEERING MATHEMATICS 1 โดยข้อมูลของสำนักทะเบียน ณ วันที่ 22 ตุลาคม 2555 นาย ก. ได้เกรด F ต่อมาวันที่ 23 ตุลาคม 2555 พบว่า เกรดเปลี่ยนจาก F เป็น D และในวันที่ 24 ตุลาคม มีการแก้ไขคะแนนอีกครั้งจาก D เป็น C
3. วิชา ENGINEERING MATERIALS ข้อมูลของสำนักทะเบียน ณ วันที่ 28 ตุลาคม 2555 คะแนนของนาย ก. ได้เกรด F และต่อมาในวันที่ 29 ตุลาคม 2555 พบว่ามีการแก้ไขคะแนนเปลี่ยนจาก F เป็น C
4. วิชา GENERAL PHYSICS 1 ข้อมูลในระบบฐานข้อมูลของสำนักทะเบียน ณ วันที่ 12 พฤศจิกายน 2555 ได้เกรด D ต่อมาวันที่ 13 พฤศจิกายน 2555 พบว่ามีการแก้ไขคะแนนจาก D เป็น D+
5. วิชา GENERAL CHEMISTRY ข้อมูลในระบบฐานข้อมูลของสำนักทะเบียน ณ วันที่ 1 พฤศจิกายน 2555 ได้เกรด D+ และในวันที่ 2 พฤศจิกายน มีการแก้ไขคะแนนจาก D+ เป็น B+
6. วิชา GENERAL PHYSICS LABORATORY 1 ข้อมูล ณ วันที่ 11 พฤศจิกายน 2555 ได้เกรด D ต่อมาวันที่ 12 พฤศจิกายน 2555 มีการแก้ไขเกรดเป็น C
7. วิชา GENERAL CHEMISTRY LABORATORY ข้อมูลวันที่ 23 ตุลาคม ในระบบของสำนักทะเบียน ได้ F ต่อมาวันที่ 24 ตุลาคม แก้เกรดจาก F เป็น C และ
8. วิชา COMPUTER PROGRAMMING เป็นวิชาที่รับผิดชอบโดยที่เกิดปัญหา มีการแก้ไขคะแนนหลังจากที่ส่งผลการเรียนให้สำนักทะเบียน และสำนักทะเบียนได้ประกาศเกรดให้นักศึกษาทราบทั่วกันแล้ว โดยแก้ไขเกรดของนาย ก. จาก F เป็น C
แหล่งข่าวคนหนึ่งจากมหาวิทยาลัยชื่อดังแห่งนี้ กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นที่วิพากษ์วิจารณ์กันทั้งสถาบัน ทั้งในกลุ่มอาจารย์กันเอง และนักศึกษา

ดังนั้น ประชาคมของมหาวิทยาลัยแห่งนี้ จึงได้ส่งหนังสือร้องเรียนถึงนายกสภาสถาบัน และสภาสถาบันได้แต่งตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริง ผลสอบข้อเท็จจริงสรุปว่า มีการแก้ไขเกรดวิชาภาษาอังกฤษพื้นฐาน 1 ของนาย ก. จริง และตั้งคณะกรรมการสอบวินัยร้ายแรงรองอธิการบดีแต่เพียงผู้เดียว โดยที่อธิการบดีไม่ถูกตั้งคณะกรรมการสอบวินัยร้ายแรง ทั้งที่ทราบเรื่องนี้มาตั้งแต่ต้น แต่ไม่มีการดำเนินการใดๆ เลย

ผู้บริหารและอาจารย์เห็นว่า การสอบสวนของคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริง อาจจะยังสาวไปไม่ถึงคนสั่งการจริงๆ และเพิ่งมาพบภายหลังว่า มีการแก้ไขเกรดให้นาย ก. ถึง 8 วิชา ดังนั้น จึงเสนอเรื่องไปยังสภาสถาบันใหม่ เพื่อขอให้สอบสวนเรื่องดังกล่าวอีกครั้ง ขณะนี้ทางสภาสถาบันได้ตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงขึ้นใหม่แล้ว เพื่อสอบสวนเรื่องดังกล่าวอีกครั้ง นอกจากนี้ ยังพบอีกว่า ผู้บริหารระดับรองอธิการบดี และผู้ช่วยอธิการบดีของมหาวิทยาลัยแห่งนี้อีกหลายคน ได้แก้เกรดให้กับลูกของตัวเองด้วยแหล่งข่าวกล่าว
แหล่งข่าวจากมหาวิทยาลัยชื่อดังกล่าวต่อว่า การแก้เกรดนักศึกษา ถือเป็นการทำผิดวินัยร้ายแรง ตามข้อบังคับสถาบันว่าด้วยวินัย หลักเกณฑ์ วิธีการและเงื่อนไขการสอบสวนพิจารณา และการสั่งลงโทษทางวินัย พ.ศ.2552 ข้อ 18 (3) ปฏิบัติ หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้ตนเอง หรือผู้อื่นได้รับผลประโยชน์โดยมิควร ซึ่งถือว่าทุจริตต่อหน้าที่ และเข้าข่ายกระทำผิดจรรยาบรรณร้ายแรงของข้อบังคับสถาบัน ว่าด้วยจรรยาบรรณของผู้ปฏิบัติงานในสถาบัน พ.ศ.2553 ตามข้อ 38(7) ใช้วิชาชีพปฏิบัติหน้าที่โดยไม่ซื่อสัตย์ และแสวงหาผลประโยชน์โดยมิชอบ โดยกระทำการแก้ผลการเรียน หรือผลสอบของนักศึกษา
การที่กลุ่มอาจารย์ออกมาเปิดเผยเรื่องดังกล่าว เพราะอยากรักษาความถูกต้องทางการศึกษาไว้ โดยอยากขอให้นายจาตุรนต์ ฉายแสง รัฐมนตรีว่าการ ศธ.เข้ามาตรวจสอบเรื่องดังกล่าว และขอให้ทางสภาสถาบันสั่งพักการปฏิบัติหน้าที่ของผู้บริหารระดับสูง และผู้เกี่ยวข้องกับเรื่องดังกล่าวไว้ก่อน จนกว่ากระบวนการสอบสวนจะได้ข้อสรุป เพราะนักศึกษารายดังกล่าวเป็นลูกของผู้บริหารระดับสูงของสถาบัน ดังนั้น กระบวนการสอบสวนอาจถูกแทรกแซงได้ และหากพบว่าเรื่องดังกล่าวไม่เกี่ยวข้องกับผู้บริหารระดับสูงคนดังกล่าว และผู้เกี่ยวข้อง ทางกลุ่มอาจารย์ และผู้บริหาร ยอมรับให้ผู้บริหารระดับสูงคนดังกล่าวกลับมาทำงานตามเดิม เพื่อให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่ายแหล่งข่าวจากมหาวิทยาลัยชื่อดังกล่าว

ที่มา:มติชนรายวัน 23 ก.ค.2556


ข้อร้องเรียนกรณีมีการแก้ไขเกรด ประจำภาคการศึกษา 1/2555

เรื่องอื้อฉาวระดับชาติที่เกาหลีใต้ .. เร่งสอบโรงเรียนกวดวิชาขโมยข้อสอบ

korea school in the past
korea school in the past

เกาหลีใต้ก็ไม่ธรรมดา ขโมยข้อสอบไปเฉลยในโรงเรียนกวดวิชา
เขารู้ล่วงหน้า เลื่อนสอบ แล้วลงโทษโรงเรียนก็แรง
ในข่าวมีข้อมูลว่าเกาหลี ส่งเด็กไปเรียนอเมริกาอันดับ 3 รองจากจีน และอินเดีย
น่าจะเป็นอีกเหตุผล เรื่องการพัฒนาแบบก้าวกระโดด แทนการพัฒนากันเอง
???
แต่เกาหลีใต้ได้รับการจัดอันดับเป็นอันดับสอง ที่มีระบบการศึกษาที่ดีที่สุดในโลก
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1354077710&grpid=01&catid=01

ส่วนของไทยรู้ว่าโกง ตอนที่คนเดียวติดสองที่
ในไทยยังสอบสวนกันไม่จบเลย จะมีสอบใหม่แล้ว
แต่มีข่าวเดินสายกลุ่มโพยออกหาลูกค้าอีกแล้ว
http://www.moe.go.th/moe/th/news/detail.php?NewsID=32818&Key=hotnews

เอเอฟพี –
http://www.thestandard.com.hk/breaking_news_detail.asp?icid=4&d_str=20130527&id=36669

korea student
korea student

รัฐบาลเมืองกิมจิเร่งสอบสวนกรณีที่โรงเรียนกวดวิชาหลายแห่งนำข้อสอบ SAT ไปให้นักศึกษาฝึกทำล่วงหน้า จนผู้บริหาร SAT สั่งระงับการสอบวัดความรู้ทั่วเกาหลีใต้เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา
สำนักงานการศึกษาในกรุงโซลตั้งคณะกรรมการพิเศษตรวจสอบสถาบันกวดวิชาเอกชนหลายแห่ง ซึ่งถูกกล่าวหาว่าได้นำข้อสอบ SAT ไปให้นักเรียนฝึกทำก่อนเข้าห้องสอบ โฆษกสำนักงานระบุ
ผู้บริหารการสอบ SAT ซึ่งเป็นการสอบวัดระดับความรู้ที่ใช้อ้างอิงมากที่สุดสำหรับผู้ที่ต้องการศึกษาต่อในสถาบันการศึกษาของสหรัฐฯ สั่งยกเลิกการสอบทั่วเกาหลีใต้เมื่อวันที่ 4 พฤษภาคม หลังพบว่าข้อสอบรั่วไหลไปถึงโรงเรียนกวดวิชา
องค์กร College Board ซึ่งเป็นผู้ดำเนินการสอบ SAT ยังประกาศงดสอบวิชาชีววิทยาในเดือนหน้าด้วย
จริยธรรมของสถาบันกวดวิชาเพื่อการสอบ SAT ตกต่ำถึงขั้นวิกฤตแล้ว” สำนักงานการศึกษาแห่งกรุงโซลระบุในถ้อยแถลง โดยตำหนิเจ้าของโรงเรียนกวดวิชาที่

ทำลายชื่อเสียงของประเทศ และทำร้ายผู้สมัครสอบที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่
สถาบันกวดวิชาที่เผยแพร่ข้อสอบล่วงหน้าจะถูกสั่งปิด และถูกตรวจสอบภาษีอากรเป็นกรณีพิเศษ อีกทั้งเจ้าของโรงเรียนจะถูกห้ามมิให้เปิดสถานศึกษาใหม่ชั่วระยะเวลาหนึ่งด้วย

ข้อมูลจากสถาบันการศึกษานานาชาติ (Institute of International Education – IIE) ระบุว่า ในปีการศึกษา 2011-2011 มีนักศึกษาชาวเกาหลีใต้เดินทางไปศึกษาต่อในสหรัฐฯ มากถึง 72,295 คน ทำให้เกาหลีใต้เป็นประเทศที่ส่งนักศึกษาต่างชาติไปเรียนต่อในสหรัฐฯ มากเป็นอันดับ 3 รองจากจีน และอินเดีย

สถาบันกวดวิชา ซึ่งช่วยนักศึกษาเตรียมความพร้อมสำหรับการสอบวัดความรู้ระดับนานาชาติ กำลังเป็นที่นิยมอย่างสูงในเกาหลีใต้ เนื่องจากคนส่วนใหญ่เชื่อว่าการเรียนจบจากสถาบันชั้นนำจะเป็นสิ่งการันตีอาชีพการงานที่ดี หรือแม้กระทั่งโอกาสในการเลือกคู่ครอง หนุ่มสาวเมืองกิมจิมักไปเรียนเสริมกับสถาบันกวดวิชาจนดึกดื่นเพื่อจะสอบได้ลำดับต้นๆ ในสถาบันการศึกษาที่มีชื่อเสียง
ทุก ๆ ปีในวันสอบเอนทรานซ์เข้ามหาวิทยาลัยเกาหลีใต้จะคุมเข้มการใช้เสียงมากเป็นพิเศษ โดยจะมีการเลื่อนเที่ยวบิน, งดการฝึกซ้อมของกองทัพ และเลื่อนเวลาเข้างานของบริษัทห้างร้านต่างๆ เพื่อให้ผู้เข้าสอบได้มีสมาธิอย่างเต็มที่
การสอบ SAT ซึ่งถูกยกเลิกเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมากลายเป็นข่าวฮือฮาที่สื่อโสมขาวทุกแขนงนำมาตีแผ่ถึง “ด้านมืด” ของวัฒนธรรมการศึกษาในเกาหลีใต้
เหตุการณ์นี้เผยถึงด้านมืดของวัฒนธรรมการศึกษาของเรา ซึ่งปราศจากความละอายต่อการทุจริต แม้กระทั่งในการสอบระดับนานาชาติ” หนังสือพิมพ์รายวันกุกมินระบุ พร้อมชี้ว่าเป็น “เรื่องอื้อฉาวระดับชาติ

ด้านหนังสือพิมพ์จุงอังอิลโบทำนายว่า เหตุการณ์เช่นนี้คงจะเกิดขึ้นซ้ำอีก เพราะนักศึกษาและพ่อแม่จำนวนไม่น้อย “ยังเต็มใจขายวิญญาณของตนเอง เพียงเพื่อให้ได้มาซึ่งคะแนนสอบ
แรงกดดันในด้านการศึกษาเป็นเหตุให้เยาวชนเกาหลีใต้ฆ่าตัวตายปีละหลายสิบคน
เหตุการณ์ล่าสุดมิใช่เรื่องอื้อฉาวครั้งแรกเกี่ยวกับการสอบ SAT ในเกาหลีใต้ โดยเมื่อปี 2007 ผลสอบของนักศึกษาเกาหลีใต้ราว 900 คนถูกประกาศเป็นโมฆะ หลังตรวจพบว่านักเรียนกลุ่มใหญ่ทราบคำถามล่วงหน้า และเมื่อปี 2010 ก็มีครูโรงเรียนกวดวิชาในเกาหลีใต้ถูกจับฐานขโมยข้อสอบ SAT ในไทยส่งไปให้นักเรียนของตนซึ่งจะต้องทำข้อสอบชุดเดียวกันในอีกไม่กี่ชั่วโมงให้หลัง

http://manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9560000063468