บุรินทร์ รุจจนพันธุ์

การศึกษาไทย เรียนให้ตาย ก็สู้เลียไม่ได้

การศึกษาไทย เรียนให้ตาย ก็สู้เลียไม่ได้
การศึกษาไทย เรียนให้ตาย ก็สู้เลียไม่ได้

สี่วาทะการศึกษา .. วันนี้
การศึกษาไทย เรียนให้ตาย ก็สู้เลียไม่ได้
การศึกษาไทย เรียนให้ตาย ก็สู้ขาวไม่ได้
การศึกษาไทย เรียนให้ตาย ก็สู้เส้นไม่ได้
การศึกษาไทย เรียนให้ตาย ก็สู้ทุจริตไม่ได้” (คนโกงเขาเชื่ออย่างนั้น)
จากเพลงเรียนและงาน
http://www.youtube.com/watch?v=EDw98E7Lh0o

15 มิ.ย.56 นักเรียน ม.4 มีวาทะว่า “การศึกษาไทย เรียนให้ตาย ก็สู้เลียไม่ได้
ในโครงการสมัชชาการศึกษา ครั้งที่ 2 โดยเครือข่ายยุวทัศน์ กรุงเทพมหานคร
ที่ได้รับการสนับสนุนจาก
สำนักงานส่งเสริมสังคมแห่งการเรียนรู้และคุณภาพเยาวชน (สสค)
และกระทรวงศึกษาธิการ ณ โรงแรมบางกอกชฎา กรุงเทพมหานคร
https://www.facebook.com/quotequotequote/posts/552626601494322
https://www.facebook.com/EducationReview/photos/a.519999038069381.1073741828.519774391425179/563846200351331/

24 มี.ค.57 เป็นที่มาของวาทะ “การศึกษาไทย เรียนให้ตาย ก็สู้ขาวไม่ได้
ขำขำนะครับ เพราะผมเห็นโฆษณาของโฮโม
ที่เจ้านายเลือกไม่ได้เลือกจากความรู้ความสามารถแต่เลือกจากความขาว
มีคลิ๊ปหัวหน้าเลือกนักข่าวจากสีเสื้อ สืบค้นยังไม่พบ
http://www.youtube.com/watch?v=8aVjfSnwRvc

6 มี.ค.56 เป็นที่มาของวาทะ “การศึกษาไทย เรียนให้ตาย ก็สู้ทุจริตไม่ได้
จากที่ คุณสรยุทธ พูดคุยกับ นายธานินทร์ เปรมปรีดิ์
รองผู้อำนวยการสำนักคดีอาญาพิเศษ กรมสอบสวนคดีพิเศษ
เรื่องทุจริตครูผู้ช่วย มีประเด็นหลายข้อ
1. ส่งมือปืน คนนั่งหน้าหลัง
2. ใช้เครื่องมือสื่อสารเข้าห้องสอบ
3. ข้อสอบรั่ว เอาโพยเข้าห้องสอบ
ค่าจ้างสำหรับการทุจริต ประมาณ 300,000 – 500,000 บาท
จากกรณีที่พบทุจริตการสอบบรรจุเป็นข้าราชการ ตำแหน่งครูผู้ช่วย
มีคนได้คะแนนเต็มถึง 480 คน
http://education.kapook.com/view58020.html
http://www.youtube.com/watch?v=0mk3P-zfgRo

ความเห็น เรื่องเห็นต่าง

teacher & student
teacher & student

ปัจจุบันครูไทย .. เลือกปฏิบัติมาได้พักหนึ่งแล้ว
กับนักเรียนแต่ละคนแตกต่างกันแล้ว
นักเรียนก็เลือกเรียนกับครูแตกต่างกันแล้ว เช่นกัน

หมายความ ..
ว่าครูไม่ได้สาดวิชา โดยไม่ดูนักเรียน ดูใกล้ชิดเลย
และนักเรียนก็ไม่ได้รอรับการสาดวิชากับอยู่อย่างเดียว
เพราะถ้าครูไม่สาด หรือสาดน้อยไป เจอเปลี่ยนที่เรียนครับ

มีข้อมูลแลกเปลี่ยน .. ดังนี้
1. นักเรียนมีหลายกลุ่ม
กลุ่มที่เปิดรับวิชาจะเลือกที่เรียนที่สาดวิชา
เช่น โรงเรียนประจำจังหวัด ที่สมัครเป็นพัน แต่รับไม่กี่ร้อย
กลุ่มที่ไม่อยากรับอะไร ก็เลือกที่เรียนที่ไม่สาดวิชา
เช่น โรงเรียนในชุมชน โรงเรียนที่ไม่ต้องสอบแข่ง
2. คุณครูมักไม่เทจนหมดหน้าตักในห้องเรียน
เพราะเงื่อนไขเยอะมาก เวลาสอนน้อยลงเยอะ
ต้องเกลี่ยไปตามกลุ่มสาระ ต้องบูรณาการ ติดงานหลวง
3. ถ้าเด็กอยากเรียนมาก ครูก็เปิดติว
พากลับไปเรียนต่อที่บ้าน จัดคอร์สพิเศษ สำหรับผู้สนใจ
4. ในแต่ละโรงเรียน มีหลายห้องตามถนัด ตามชอบ
แบ่งห้อง king queen math engl
5. โรงเรียนประจำจังหวัด
สอบเข้า ม.1 แล้ว ถ้าไม่พร้อมรับการสาดวิชา
ต้องกรองอีกตอนสอบเข้า ม.4
ถ้าไม่อยากเรียน ก็ไม่ต้องทำข้อสอบ
ไปหาโรงเรียนเบา ๆ เรียนได้ เด็กเลือกได้เสมอ

กลอนโดย กอบวิทย์ พิริยะวัฒน์
http://teacherkobwit2010.wordpress.com/

เปรียบคนถือสายยางนี้นี่คือครูเปรียบสายน้ำคือความรู้ครูสอนให้
เปรียบศิษย์กับภาชนะต่างกันไป
เปรียบให้เห็นตระหนักไว้ให้คิดกัน
หากเรามุ่งแต่สาดน้ำไปมั่วซั่ว
แม้จะทั่วแต่จะรับได้ไหมนั่น
ภาชนะแต่ละใบแตกต่างกัน
แต่ละอันมีเด่นด้อยต่างกันไป
บ้างเป็นขวดบ้างเป็นแก้วบ้างเป็นอ่าง
บ้างมีรูอยู่ข้างล่างบ้างเล็กใหญ่
บ้างคว่ำอยู่ไม่เปิดรับสิ่งอื่นใด
รับน้ำได้เท่ากันไหมลองคิดดู
เช่นเดียวกับการสอนศิษย์ของครูนั้น
เด็กต่างกันคือสิ่งที่ครูต้องรู้
ปรับการสอนให้เหมาะสมช่วยอุ้มชู
ตามศักยภาพที่มีอยู่ในตัวตน
ครูที่ดีต้องไม่ใช่สาดความรู้
ตริตรองดูสอนอย่างไรให้เห็นผล
คำนึงถึงความแตกต่างระหว่างบุคคล
พัฒนาจนศิษย์เก่งดีมีสุขเอย

https://www.facebook.com/photo.php?fbid=808741769153811&set=a.118832161478112.15682.100000539852258
ที่มา: วรภัทร์ ภู่เจริญ. 2543.
การบริหารการเรียนรู้ที่ยึดผู้เรียนเป็นสำคัญ
กรุงเทพ : สำนักพิมพ์ สสท. หน้า 11

ในภาพยนตร์จำลองเหตุการณ์ในชั้นเรียน
เล่าถึงกระบวนการพิจารณาไล่นักเรียนออกจากโรงเรียน
เห็นว่าปีที่แล้วเชิญนักเรียนที่ไม่พร้อมออกไป 12 คน

บทเรียนจากหัวหน้า 7 เรื่อง

เล่าสู่กันฟัง .. เป็นบทเรียนจากหัวหน้า
ผมบันทึกไว้อ่าน เป็นเครื่องช่วยจำครับ
4 ก.พ.57 ท่านให้แนวทางในการทำงานไว้ 7 ข้อ

1. เรื่อง เขียนบันทึกต้องละเอียด
ถ้าต้นเรื่องทำบันทึกขออนุมัติกิจกรรม/โครงการ
ต้องมีรายละเอียดที่ชัดเจนว่าจะใช้งบส่วนไหน มี หรือไม่มีงบ
จะได้ใช้ข้อมูลที่ครบถ้วน ประกอบการพิจารณาอย่างเหมาะสม
2. เรื่อง อย่างนิ่งดูดายต่อคำถาม
เมื่อมีคำถามต่อบันทึกขออนุมัติกิจกรรม/โครงการ
มาทางอีเมลถึงทุกคน แล้วคนที่คิดว่ามีข้อมูลต่อคำถามก็ต้องชี้แจงไป
และก็ต้องช่วยกันสะกิดสะเกาให้ตอบไป เรื่องจะได้เดินต่อ
3. เรื่อง ห้ามเขียนงบอื่น ๆ
หลายองค์กรตั้งงบประมาณว่า อื่น ๆ หรือถัวเฉลี่ย
แต่บริบทของเราทำไม่ได้ ต้องชัดเจน โปร่งใส ตรวจสอบได้
เราผ่านการปฏิรูปมาแล้วนะ ต่อไปอย่าตั้งมาอย่างนั้น
4. เรื่อง ไปดูงาน ไม่ใช่ไปเที่ยว
การดูงานในอดีต มีรายการท่องเที่ยวแฝงอยู่มาก
หลายสถาบันยกเลิกการดูงานว่าเป็นเงื่อนไขของหลักสูตร
ถ้าดูงานก็ต้องดูกันจริง ๆ ดูแล้วน.ศ.ก็ต้องกลับมาทำรายงานผลด้วย
5. เรื่อง ถ้าตั้งใจก็เรียนได้ เรื่องจ่ายผ่อนเอา
ภาครัฐสนับสนุนการศึกษา ออกกฎว่า ขั้นพื้นฐานไม่มีเงินก็เรียนได้
ถ้าจัดการแยกว่า คนที่มีกับคนไม่มี ต้องปฏิบัติต่างกัน จะทำให้จัดการยุ่งยาก
ตอนนี้ระดับอุดมฯ คุมที่ใบรับรอง คือไม่มีเงินก็เรียนได้ แต่ต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่าย
ดังนั้น ไม่มีเงินก็เข้าสอบได้ ถ้าสอบผ่าน แต่ไม่จ่าย ก็ไม่ออกใบรับรองให้
6. เรื่อง ขู่นักศึกษา เขาอาจเก็บกระเป๋านะ
ปัญหาการสื่อสาร การขู่ให้กลัวก็ดีอย่างหนึ่ง จะได้ “ฮึกเหิม”
แต่อาจเกิดผลกระทบทางลบได้ เช่น “ไม่ตั้งใจเรียน ระวังไม่จบนะ”
คนที่ไม่ตั้งใจเรียนก็พาลใจเสีย ต้องดูแลใกล้ชิด เอาน้ำเย็นเข้าลูบ ทำความเข้าใจ
7. เรื่อง ระบบของคนเซ็นรับตัง กับระบบของเรา
หลักฐานทางราชการ ต้องทำความเข้าใจเรื่องใครเซ็น
เพราะเข้าท้องพระคลังไปแล้วออกยากครับ
ต้องเข้าใจตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ
ต้นต้องรู้ว่าการเซ็นรับตัง มีเงื่อนไขอย่างไร
เพราะคนรับเขาก็มีระบบ เราก็มีระบบ ต้นกลางปลายมีระบบหมด
ต้องสรุปให้ได้ว่า หลักฐานแบบใดที่จะให้คนนอกเซ็น
จึงจะ happy ทุกฝ่าย ทั้งหมดขึ้นกับต้นเรื่องที่ต้องเข้าใจ

งบประมาณปี 2556 กระทรวงศึกษาอันดับ 1 ได้ 4.6 แสนล้าน
http://thaipublica.org/2012/08/the-budget-2556/

ปัญหาการศึกษาไทยอยู่ที่ไหนกันแน่ ที่นี่มีคำตอบ
http://www.anantasook.com/thai-education-problem/

ข้อสอบข้อนี้ตอบอะไรดีนะ

มีโอกาสทำข้อสอบ .. ข้อหนึ่ง
ข้อนี้อ่านแล้วก็รู้สึกไม่มั่นใจว่าที่ถูกคือข้อใด
ในโลกแห่งความเป็นจริง
คำว่า true กับ false ห่างกันนิดเดียว
เพราะเกณฑ์ที่ใช้ ไม่ได้เป็นของตาย เป็นสิ่งที่ดิ้นได้
แล้วเกิดจากความรู้สึกของมนุษย์ที่ทำหน้าที่ออกกฎ

หลายคนบอกว่าให้เชื่อตัวเอง
ผมว่าคนที่เขาออกกฎก็คงคิดว่าตนถูกแล้วหละ
อย่างเพลง “ผู้ชนะ” มีท่อนหนึ่งบอกว่า
อย่าฟังคำคน อย่าสนใจใคร อย่าเปลี่ยนแนว คนแน่แน่วเท่านั้น ผู้ชนะ

คลิ๊ปนี้แยกลำโพงซ้ายขวา

ในชีวิตจริง เราทุกคน เป็นคนถูกหมด และเป็นผู้ชนะครับ
ไม่งั้นเราคงไม่เบียดเบียนสัตว์มากมาย
แล้วบอกว่าพบพวกสัตว์เกิดมาเพื่อเรา .. เพื่อให้เราได้อยู่ต่อไป

ทัวร์อาคารเรียน ห้องประชุม และห้องเรียน

15 ม.ค.57 พาชมห้องเรียน และห้องประชุม
บริเวณชั้น 2 ในอาคารบริหารธุรกิจ
รวม 9 ห้อง มีที่นั่งทั้งหมด 643 ที่นั่ง

ประกอบด้วย
1. ห้อง Auditorium = 309 ที่นั่ง
2. ห้อง 1203 = 54 ที่นั่ง
3. ห้อง 1204 = 24 ที่นั่ง
4. ห้อง 1205 = 30 ที่นั่ง
5. ห้อง 1206 = 40 ที่นั่ง
6. ห้อง 1207 = 40 ที่นั่ง
7. ห้อง 1208 = 66 ที่นั่ง
8. ห้อง Lab3 = 50 ที่นั่ง
9. ห้อง 1209 = 30 ที่นั่ง

เป็นข้อมูลสำหรับนักวิชาการ หรือผู้สนใจที่ต้องการ
มาใช้สถานที่ของมหาวิทยาลัยในการจัดประชุม

คำต่อคำ เจษฎา-อนันต์ วิวาทะการเมือง นักวิชาการจุฬาฯ ตอน 1 และ 2

เจษฎา เผยจะล้มรัฐบาลด้วยการไปกากบาท ชี้การเมืองถ้ายังเป็นแบบนี้ไม่พ้นเมษาสงครามกลางเมืองแน่ เครือข่ายจุฬาเชิดชูคุณธรรม ระบุเมื่อได้ข้อมูลไม่รอบด้าน การเลือกตั้งแม้จะ 1 คนกา 1 เสียง มันก็ไม่เท่าเทียม
6 ม.ค.2557 เมื่อเวลา 17.26 น.  รายการสรยุทธเจาะข่าวเด่น ทางช่อง 3 ได้เผยแพร่ใน ประเด็น “2 มุมมองการเมืองจากนักวิชาการจุฬาฯ” โดยมีผู้ร่วมรายการคือ อนันต์ เหล่าเลิศวรกุล  อาจารย์ประจำคณะอักษรศาสตร์ จุฬาฯ ในนามเครือข่ายจุฬาเชิดชูคุณธรรม ซึ่งขึ้นเวที กปปส. ที่ราชดำเนินมาเป็นครั้งคราวแล้ว กับ รศ.เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ อาจารย์ประจำภาควิชาชีวะวิทยา คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาฯ ซึ่งล่าสุดโพสต์ข้อความชาวจุฬาฯ เสียงส่วนน้อย ที่ไม่เห็นด้วยกับการชุมนุมที่จะนำไปสู่ความรุนแรง โดยตลอดรายการประมาณ 20 นาที เป็นการสนทนาการในประเด็นสถานการณ์การเมืองปัจจุบัน การเลือกตั้ง  ก.พ.นี้ การปิดกรุงเทพของ กปปส. สงครามการเมือง เป็นต้น
http://prachatai.com/journal/2014/01/50974

‘อนันต์’ ชี้ ปัญหาการเลือกตั้ง นักการเมืองขาดจริยธรรม ผู้เลือกตั้งไม่ทันเล่ห์นักการเมือง ‘เจษฎา’ แย้งโลกมันเปลี่ยนไปแล้ว คนรู้มากขึ้น ระบุคน ตจว.อาจรู้เรื่องการเมืองมากกว่ากทม. ลงท้ายด้วยต่างปราถนา “ภราดรภาพ”
7 ม.ค.2557 เมื่อเวลา 17.20 น. รายการสรยุทธเจาะข่าวเด่น ทางช่อง 3 ได้เผยแพร่ใน ประเด็น “2 มุมมองการเมืองจากนักวิชาการจุฬาฯ” ตอนที่ 2 โดยมีผู้ร่วมรายการคือ อนันต์ เหล่าเลิศวรกุล  อาจารย์ประจำคณะอักษรศาสตร์ จุฬาฯ ในนามเครือข่ายจุฬาเชิดชูคุณธรรม ซึ่งขึ้นเวที กปปส. ที่ราชดำเนินมาเป็นครั้งคราวแล้ว กับ รศ.เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ อาจารย์ประจำภาควิชาชีวะวิทยา คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาฯ ซึ่งล่าสุดโพสต์ข้อความชาวจุฬาฯ เสียงส่วนน้อย ที่ไม่เห็นด้วยกับการชุมนุมที่จะนำไปสู่ความรุนแรง โดยตลอดรายการประมาณ 20 นาที เป็นการสนทนาการในประเด็นสถานการณ์การเมืองปัจจุบัน การเลือกตั้ง  ก.พ.นี้ การปิดกรุงเทพของ กปปส. สงครามการเมือง เป็นต้น ต่อจากตอนที่ 1 เมื่อวานนี้
http://prachatai.com/journal/2014/01/50994

น่าสะเทือนใจกับการปิดกิจการของโรงเรียน

น่าสะเทือนใจกับการปิดกิจการของโรงเรียน
1. โรงเรียนสิริมังคลานุสรณ์เชียงใหม่
แจ้งการยกเลิกกิจการโรงเรียน 2 ธ.ค.2556
– โรงเรียนมีปัญหาด้านการค้างชำระเงินค่าธรรมเนียมการเรียนของนักเรียน เป็นเงินกว่า 5.3 ล้าน
– กิจการของโรงเรียนขาดทุน เนื่องจากรัฐบาลกำหนดให้มีการปรับอัตราเงินเดือนครูระดับปริญญาตรีเป็น 150,000 บาท
– การเปิดรับนักเรียนของโรงเรียนสังกัดอปท. ทำให้จำนวนนักเรียนลดลง
– ผศ.ดร.บุญณ์รัตน์ ไม่สามารถรับกับบริบทในการจัดการศึกษาของไทยในปัจจุบัน
– เจ้าของกิจการไม่ประสงค์จะสืบทอดกิจการ

2. 23 พ.ย.2553 โรงเรียนปัฐวิกรณ์วิทยา จะปิดกิจการแล้ว
น้องเขียนความรู้สึกต่อโรงเรียนได้สะเทือนใจครับ “ฉันอยู่โรงเรียนนี้มา 7 ปี ซึ่งปีนี้เป็นปีที่ 8 ฉันไม่เคยคิดว่าโรงเรียนแห่งนี้จะปิดกิจการลง เพื่อนและคุณครูทุกคนของฉันที่เคยอยู่ด้วยกันมาโดยตลอด ก็ต้องแยกจากกัน ความรู้สึกเก่าๆ มันก็ค่อยๆ จางหายไปเรื่อยๆ และในอนาคตโรงเรียนปัฐวิกรณ์แห่งนี้ก็คงกลายเป็นอดีตซึ่งทุกคนคิดถึงมัน และอยากให้มันกลับคืนมา ไม่มีใครรู้ว่าวันข้างหน้าโรงเรียนปัฐวิการณ์จะมีสภาพเป็นอย่างไร สุดท้ายฉันจะยังคงคิดถึงสถานที่แห่งนี้มาก และฉันจะจดจำไว้ว่าฉันเคยได้เรียนที่โรงเรียนปัฐวิกรณ์แห่งนี้…ลาก่อนปัฐวิกรณ์วิทยา…”
http://www.oknation.net/blog/Thailandneverdie2/2010/11/23/entry-1

3. 21 พ.ย.2551 ครูเอกชน เรียกร้องสภาช่วยดัน พ.ร.บ.ร.ร.เอกชน
เข้าสู่การพิจารณาเป็นวาระเร่งด่วน ระบุ หากช้าจะกระทบครู บุคลากร 40,000 คน
ได้รับความเดือดร้อน เผย มีโรงเรียนปิดกิจการไปแล้ว 13 แห่ง คาดปีหน้าปิดอีก 100 แห่ง
http://blog.eduzones.com/jipatar/13160

4. โรงเรียนเรวดี ปิดกิจการกลางปีพ.ศ.2553
http://www.komchadluek.net/detail/20090910/27888.html

5. โรงเรียนศึกษาสมบูรณ์อนุสรณ์ ก่อตั้งมาตั้งแต่ปี๒๔๐๔
ขอเลิกกิจการโรงเรียน ปีพ.ศ.2554
http://www.dek-d.com/board/view/2057937/

* โรงเรียนสิริมังคลานุสรณ์เชียงใหม่ ใน facebook
https://www.facebook.com/photo.php?fbid=416236941813378&set=o.109357035752956

* โรงเรียนสิริมังคลานุสรณ์เชียงใหม่ ในมติชน
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1388838647&grpid=03&catid=&subcatid=

เรื่อง กล้วย กล้วย

กล้วยน้ำว้าครับ หวีละ 10 บาท
แม่ค้ากำลังตัดออกจากเครือในตลาดอัศวิน
ระยะหลังผมเริ่มซื้อผลไม้เข้าบ้าน
เช่น กล้วยกับมะละกอ เพราะอยากอยู่มองดูโลกนาน ๆ 

banana

http://naturalnoshing.wordpress.com/2011/08/17/banana-split/


ท่านใดมีมาม่าซอง 5 บาทติดบ้าน
ผมว่าบางมื้อทานกล้วยครึ่งหวีก็อิ่มได้นะครับ
แต่มะละกอนี่ไม่แนะนำให้กินแทนข้าว เพราะไม่อิ่ม

เทียบกับน้ำโกโก้แก้วละ 25 บาท
ผมรู้สึกไม่ค่อยสบายใจนิดหน่อย
กับราคาของน้ำโกโก้ ที่ต่างกับราคากล้วยมากมาย

ปล. เรื่องนี้ทำให้นึกถึงคำว่า #bananasplit
เพราะสอนนักศึกษาเรื่องคำสั่ง split ก็จะยกมาถามทุกครั้งไป

Mr.Hossein Farmani ช่างภาพชื่อดังชาวอเมริกัน

Mr.Hossein Farmani ช่างภาพชื่อดังชาวอเมริกัน

คุณโฮเซน ฟาร์มานี Mr.Hossein Farmani
ช่างภาพชื่อดังชาวอเมริกัน ภัณฑารักษ์ และเจ้าของห้องแสดงภาพ
มาบรรยายที่ 4201 ม.เนชั่น วันที่ 20 ธ.ค.56 14.30-16.00
ตามความร่วมมือกับสถานทูตอเมริกาที่เชียงใหม่
นำโดย Mr.Michael Heath กงสุลใหญ่สหรัฐอเมริกา
และมี ดร.สุจิรา หาผล เป็นผู้สัมภาษณ์และแปลไทย
ในหัวข้อ Connecting the world though Photography
เกี่ยวกับเรื่องการถ่ายภาพ และความสำเร็จที่เขาทำได้ในฐานะช่างภาพ
และจะไปเปิดนิทรรศการภาพถ่าย ที่ห้างเซ็นทรัลพลาซา ลำปาง
ในวันศุกร์ ที่ 20 ธ.ค.56 เวลา 14.00-17.00 น.
http://www.farmani.com/

ก่อนหน้านี้เคยฟัง
Jeffrey Blitz ผู้กำกับภาพยนตร์เรื่อง spellbound ที่ ม.เนชั่น ลำปาง
http://blog.nation.ac.th/?p=2380

การพัฒนางานวิจัย เพื่อเสริมสร้างความเข้มแข็งเครือข่ายอุดมศึกษาภาคเหนือตอนบน

การพัฒนางานวิจัย เพื่อเสริมสร้างความเข้มแข็งเครือข่ายอุดมศึกษาภาคเหนือตอนบน

ตามที่ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ กับ มหาวิทยาลัยเนชั่น จัดประชุมวิจัย วันที่ 9 ธ.ค.56
เรื่อง การพัฒนางานวิจัย เพื่อเสริมสร้างความเข้มแข็งเครือข่ายอุดมศึกษาภาคเหนือตอนบน
และมีการบันทึกคลิ๊ปการสัมมนาไว้ โดยท่านอธิการมีนโยบาย
ให้บันทึกคลิ๊ปไว้ และเปิดให้บุคลากรที่สนใจเข้ามาเรียนรู้
หรือนำไปใช้ในกิจกรรมวิชาการอื่นใดต่อไป

วัตถุประสงค์ของการฝึกอบรม / การสัมมนา
1. เพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจในกระบวนการวิจัยให้แก่คณาจารย์ นักวิจัย บุคลากรของเครือข่ายอุดมศึกษาภาคเหนือตอนบน ให้สามารถขอสนับสนุนการวิจัยจากแหล่งทุนได้
2. เพื่อเปิดโอกาสให้คณาจารยย์ นักวิจัย และบุคลากรของเครือข่ายอุดมศึกษาภาคเหนือตอนบน ได้แลกเปลี่ยนเรียนรู้และประสบการณ์ อันส่งผลให้เกิดความร่วมมือทางการวิจัยระหว่างสถาบันอุดมศึกษา
3. เพื่อสร้างบุคลากรด้านการวิจัยของเครือข่ายอุดมศึกษาภาคเหนือตอนบน ให้มีความรู้ ความสามารถ ความเชี่ยวชาญ และวิสัยทัศน์ในการวิจัย

หากเพื่อนบุคลากรที่เข้าร่วมกิจกรรมแล้ว ต้องการติดตามย้อนหลัง
หรือท่านที่ติดภารกิจ สามารถเข้าไปติดตามการบรรยาย ของวิทยากรทั้ง 6 ท่านได้
1. ศ.นพ.สุทธิพร  จิตต์มิตรภาพ บรรยายเรื่อง แหล่งทุนและทิศทางการวิจัยในประเทศ
Track ทั้ง 4 ของความก้าวหน้าในอาชีพ
1.1 ผลงานตีพิมพ์ วารสาร หนังสือ
1.2 สิทธิบัตร/นวัตกรรม/กระบวนการ/มูลค่าเศรษฐกิจ
1.3 ผลกระทบที่เปลี่ยนแปลงวิถีชีวิต
1.4 การเปลี่ยนแปลงนโยบาย กติกา
2. ศ.นพ.คม สุคนธสรรพ์ บรรยายเรื่อง กระบวนการวิจัยและพัฒนางานวิจัย
ในสาขาวิชาด้านวิทยาศาสตร์สุขภาพ
3. รศ.ดร.อรรถชัย จินตะเวช บรรยายเรื่อง กระบวนการวิจัยและพัฒนางานวิจัย
ในสาขาวิชาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
4. ศ.ดร.มนัส สุวรรณ บรรยายเรื่อง กระบวนการวิจัยและพัฒนางานวิจัย
ในสาขาวิชามนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์
5. ผศ.วุฒิพงศ์ เตชะดำรงสิน บรรยายเรื่อง เขียนโครงการวิจัยอย่างไรให้ได้รับทุน
6. นพ.วิจารณ์ พานิช บรรยายเรื่อง เทคนิคการจัดการองค์ความรู้เพื่อประยุกต์ใช้ในงานวิจัย
Organizational Knowledge Creation : SECI Model
– Socialization
– Externalization
– Combination
– Internalization

แหล่งภาพ
https://www.facebook.com/media/set/?set=a.1442035516015857.1073741856.1399580723594670

ข้อมูลโครงการ และกำหนดการ
ที่ http://www.scribd.com/doc/189761687/